การนัดหมาย เป็นสิ่งจำเป็นเพราะคนเรามันต้องเจอะเจอกัน การนัดหมายแบบเป็นทางการอาจดูยากแต่ก็จำเป็น เพราะในแวดวงธุรกิจหรือคนที่เราไม่คุ้นเคย เราก็ต้องมีอะไรที่เป็นแบบแผนดูดีด้วยเช่นกัน เราสามารถเริ่มต้นด้วยคำพูดว่า
I'd like to make an appointment with + คนที่เราอยากนัด
(อยากจะขอนัดหมายกับ.....) คำว่า appointment ออกเสียงว่า เออะ (พ๊อย) เมิ่นท์ เน้นที่พยางค์ พ๊อย ที่เหลือปล่อยเบา อย่าออกเสียงว่า อะ พ๊อย เม๊นท์ ได้เวลาปรับเปลี่ยนแล้ว
I'd like to make an appointment with Mr. Donald Trump.
หรือ ชอบแบบนี้
I'd like to schedule a meeting with Mr. Donald Trump.
= ผมหรือดิฉันขอนัดคุย (นัดพบ)กับ.....
คำนี้ออกเสียงยาก ให้ไปฟังเอาเองตาม internet แต่ก็อยากจะขอโอกาสเขียนให้ดู สะ (เก็จ) เยิล ให้นึกถึงคำว่า school ออกพยางค์แรกตัวนี้เลย
หรือ
Could I schedule a time to meet with Mr. Seksan?
ช่วยรบกวนจัดเวลาเพื่อพบคุณ........?
การนัดหมายในลักษณะนี้ มักจะใช้ในสถานการณ์ต่างๆที่เป็นทางการ เช่น การนัดพบแพทย์ การขอเข้าพบครู อาจารย์ หรือคนที่เราไม่รู้จักมักจี่ จะมาใช้ภาษาแบบง่ายๆกันเอง มันไม่ได้
เช่น Excuse me! I’d like to make an appointment with the president= ขอโทษครับ / คะ อยากจะนัดพบกับท่านประธานครับ /ค่ะเป็นต้น
ก็จะมีเลขาหน้าห้องหรือใครก็ตามแต่ที่คอยจัดเวลาให้ หรือเราเป็นคนนั้น ก็ใช้ไปเลยว่า
What time is best for you? (เวลาไหนที่สะดวกที่สุดหรือครับ /คะ)
When would be a good time for you?
(เวลาไหนที่สะดวกที่สุดหรือครับ /คะ)
Would 9:00 on Thursday be okay?
( ตอน 9 โมงวันพฤหัส ได้ไหมครับ /คะ)
He'll be in on Tuesday
(เขาจะเข้ามาวันอังคารครับ /ค่ะ)
His schedule is open all day Monday.
(ตารางว่างวันจันทร์ทั้งวันเลยครับ /ค่ะ)
She's free any day but Wednesday.
(หล่อนว่างทุกวันยกเว้นวันพุธครับ /ค่ะ)
The president will be away until Friday.
(ท่านประธานจะไปอยู่จนถึงวันศุกร์ ครับ / ค่ะ)
คำว่า president อ่านว่า ( เพร) เสอะ เด็นท์
Thursday at 10:00 will be fine.
(วันพฤหัสตอน 10 โมงก็จะดี ครับ /ค่ะ)
Friday at 11:00 sounds good.
(วันศุกร์ตอน 11 โมง ก็ว่างครับ /ค่ะ)
สำนวนเหล่านี้สามารถปรับใช้เป็น ตัวเราเองก็ได้เช่นกัน เช่น
My schedule is open all day Monday.
(ตารางผมว่างวันจันทร์ทั้งวันเลยครับ )
I am free any day but Wednesday.
(ผม / ดิฉัน ว่างทุกวันยกเว้นวันพุธครับ /ค่ะ)
Okay. Tuesday morning at 9.
(ตกลงครับ วันอังคารเช้าตอน 9 โมง)
Monday at 8:00 is not good for me.
(วันจันทร์ตอน 8 โมง ไม่สะดวกครับ / ค่ะ)
Wednesday is not possible
(วันพุธ ไม่ได้ครับ / ค่ะ)
เวลา + is not good / is not fine / is not possible ใช้ได้หมด)
Will Mr. Peter be in tomorrow?
(พรุ่งนี้ คุณปีเตอร์จะเข้ามาไหม)
Is he available next Wednesday?
(เขาว่างวันพุธหรือเปล่า)
Does she have any time on Thursday?
(วันพฤหัสพอจะมีเวลาหรือเปล่า)
Sorry, her calendar is full on Monday.
(ขอโทษด้วยครับ / ค่ะ วันจันทร์ตารางแน่นเลยครับ / ค่ะ) (คำว่า calendar ออกเสียงว่า ( แค) เลิน เดอร์ เน้นที่พยางค์แรก (แค) ที่เหลือปล่อยเบา
He doesn't have time on Tuesday.
(เขาไม่มีเวลาวันอังคาร)
How about Friday at 4:00?
(แล้ววันศุกร์ตอน 4 โมงเย็นล่ะ)
Thursday at 10:00 will be fine.
(วันพฤหัสตอน 11 โมง ก็ว่างนะ)
เวลาบรรยายวันเวลา ให้ใช้ วัน + ชั่วโมง
Friday at 11:00 sounds good.
(วันศุกร์ตอน 11 โมงก็ว่าง)
Okay. Tuesday morning at 9.
(ตกลง วันอังคารเช้า ตอน 9 โมง)
Monday at 8:00 is not good for me.
(วันจันทร์ ตอน 8 โมง ไม่สะดวกครับ / ค่ะ)
Wednesday is not possible.
(วันพุธไม่ได้ครับ / ค่ะ) คำว่า possible อ่านว่า (พา) เสอะ เบิ้ล เน้นพยางค์แรก (พา) ที่เหลือปล่อยเบา
สำนวนพวกนี้ เอาไปปรับใช้ได้เลย เพราะการนัดหมายเป็นสิ่งจำเป็น การบรรยายวันเวลาที่สะดวก ก็สามารถใช้แบบง่ายๆตามนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น