วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Energy for Meaningless


I no longer have the energy for meaningless friendships, forced interactions or unnecessary conversations.

ฉันไม่มีพลังมากพอที่จะเสียให้กับมิตรภาพที่ไม่มีความหมาย การพบปะที่ต้องฝืน หรือการพูดคุยที่ไม่จำเป็น









วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Give It to Me Straight

To feel someone
= เข้าใจในความเจ็บปวด เห็นใจ
เช่น

I feel you. = I feel your pain.
= ฉันเข้าใจคุณ (เห็นใจคุณ)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

Give It to Me Straight
= บอกความจริงมาเลย พูดมาตรงๆเลย

"Just give it to me straight, I can take the news."
พูดมาตรงๆเลย ฉันรับได้

"This is hard for me to say so I'm just going to give it to you straight."
สิ่งที่กำลังจะพูดก็ลำบากใจเหมือนกัน ก็เลยจะพูดตรงๆกับเธอ

"Just give it to me straight. How bad can it be?"
แค่พูดออกมาตรงๆ มันจะเลวร้ายซักแค่ไหนเชียว

A. "I have your test results back."
ฉันได้ผลการสอบของแกมาแล้ว
B. "How bad is it? Just give it to me straight."
แย่ไหม บอกฉันมาตรงๆเลย





วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Strings attached

Strings attached มีข้อผูกมัด หรือ มีเงื่อนไข มีข้อผูกพัน

strings หมายถึง เชือก attached ที่ผูกอยู่ (มีเชือกผูกไว้)

Don’t trust any special offers. They always come with strings attached.
= อย่าไปเชื่อข้อเสนอพิเศษ มันมักจะมาพร้อมกับเงื่อนไข

He is so generous. He donates a large sum of money with no strings attached.
= เขาใจกว้างมาก บริจาคเงินจำนวนมากโดยไม่มีเงื่อนไข

I’ll do it for you, with no strings attached.
= ผมจะทำให้โดยไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งสิ้น

สามารถนำไปใช้ในความหมายในแง่สนุกแบบไม่ผูกพันได้ โดยเฉพาะการไปมีอะไรกับใคร เช่น

A: Do you want to have sex with me. It’s a no-strings attached kind of situation.
= อยากมีอะไรกันไหม แบบไม่ผูกพัน

เราสามารถเอาไปใช้ว่า No strings attached. ได้ จะหมายถึง สนุกแบบไม่ผูกพัน หรือทำอะไรแบบไม่มีเงื่อนไข ก็ได้



วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Together

Even when times are tough, you can always feel better knowing that I’ll be by your side, we’re in it together.

แม้ช่วงที่เธอเจอปัญหา เธอยังสามารถรู้สึกดีขึ้นเสมอ รู้ไว้ว่า ฉันจะอยู่เคียงข้าง เราจะสู้ไปด้วยกัน





วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Take (continue...)

โครงสร้างที่เกี่ยวกับ It takes…..
1. It takes + จำนวนเวลา + to + กริยา ไม่ผัน หมายถึง ใช้เวลาในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
2. It takes + จำนวนเวลา + for + ใครหรืออะไร + to…. หมายถึง สิ่งนั้นหรือคนนั้นใช้เวลาในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
3. It takes + ใครคนใดคนหนึ่ง + to …..
เช่น
It takes me ten minutes to get to the office.
= ฉันใช้เวลา 10 นาที ไปถึงทำงาน
It takes about two hours to go to Pattaya.
= ไปพัทยาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (ไม่ระบุว่าใคร แต่หากต้องการบอกว่าใครก็ใช้เวลาประมาณนี้
แต่หากต้องการบอกว่า ฉันนะเหรอ ใช้เวลาแค่ ชั่วโมงเดียว ก็ใช้ว่า It takes me only one hour to get there. ก็สุดแต่ว่าจะใช้ฝีเท้ากันขนาดไหน
และกริยา to take สามารถเอาไปใช้ในรูปอดีตได้ หากมันเกิดไปแล้ว เช่น
Yesterday it rained heavily, so it took me one hour to get to the office.
= เมื่อว่านี้ ฉันใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงไปถึงทำงานเพราะฝนตกหนักมาก
หากต้องการใช้คำบรรยายอื่นๆเช่น โดยปกติแล้ว ใช้เวลา... เช่น โดยปกติ จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที แต่เย็นนี้รถติดมาก ก็เลยใช้เวลา 30 นาที เราก็สามารถพูดเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า
It normally takes about fifteen minutes, but this evening the traffic was bad, so it took me 30 minutes.
ทำได้ง่ายๆ โดยการใส่คำว่า normally / basically ลงไป เอาอันไหนก็ได้
อีกนิดหนึ่ง บางคนสงสัยว่า แล้วถ้าต้องการจะสื่อว่า
ไปโดยรถ เครื่องบิน รถไฟ จะพูดยังไงดี ก็พูดได้หลายแบบ
เช่น
It normally takes about one hour to go to Chiangmai by plane.
= โดยปกติ บินไปเชียงใหม่ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
หรือ It normally takes about one hour to fly to Chiangmai.
แต้ถ้าขับรถไปเอง ก็สามารถใช้ว่า
It normally takes about 7 hours to drive to Chiangmai.
It normally takes about 7 hours to go to Chiangmai by car. / by train
ถ้าอยากจะถามว่า ใช้เวลานานแค่ไหนในการทำไอ้โน่นไอ้นั่นหรือไปที่โน่นที่นี่ล่ะ จะถามว่ายังไงดี ก็นี่
How long does it take to go to Pattaya?
How long does it take to get a master’s degree?
How long does it take to cook papaya salad? (ทำส้มตำใช้เวลานานไหม)
หรืออยากจะใช้ถามว่า จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ก็เปลี่ยนเป็นอนาคต ใช้ will เข้าไปช่วยได้เลย
เช่น
How long will it take to get to the post office?
How long will it take to go to Pattaya?
How long will it take to speak English fluently?
อีกนานแค่ไหนกว่าจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง
สรุปว่า หากต้องการจะบรรยายว่า ใช้เวลาเท่าไร ในการที่จะทำอะไร สามารถใช้โครงสร้างนี้ไปปรับแต่งได้ตามสถานการณ์ต่างๆ

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Take

In Thailand it takes at least seven years for a medical student to become a doctor.
นักศึกษาแพทย์ในเมืองไทยใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปี กว่าจะประกอบอาชีพแพทย์ได้
ใช้สำนวน to take + จำนวนปี + for + คนใดคนหนึ่ง + to กริยา เช่น
เภสัชใช้เวลาเรียน 5 ปี เราก็ใช้ว่า
It takes five years to become a pharmacist.
วิศวกรใช้เวลาเรียน 4 ปี เราก็สามารถใช้ว่า
It takes 4 years to become an engineer.
หรือ เรียนปริญญาโทใช้เวลา 3 ปี ก็ประยุกต์ใช้ได้ว่า
It takes 3 years to get a master’s degree.
ส่วนปริญญาเอก ก็ใช้เวลาอย่างต่ำ 5 ปี สามารถพูดได้ว่า
It takes at least five years to get a doctorate.
"It takes him one hour to get there."
= เขาใช้เวลา 1 ชั่วโมงไปถึงที่นั่น
"It takes forty-five minutes for me to get ready."
= ฉันใช้เวลา 45 นาทีในการเตรียมตัว
"It takes 7 seconds for my car to go 60 miles per hour."
= รถผมใช้เวลา 7 วินาทีในการวิ่งด้วยความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง
"It takes all day for us to finish golfing."
= เราใช้เวลาทั้งวันในการเล่นกอล์ฟเสร็จ
"It takes years to learn to play guitar."
= ใช้เวลาหลายปีที่จะเรียนกีต้าร์
"It takes 15 minutes to get to downtown."
= ใช้เวลา 15 นาทีไปที่ตัวเมือง
"It takes me one hour to cook.”
= ฉันใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการทำอาหาร