หลังจากเสพย์เรื่องหนักๆมาหลายวัน มาพักผ่อนด้วยสำนวนเบาๆสักวัน เดี๋ยวจะเครียดตายก่อนรู้ภาษาอังกฤษแบบเอาไปใช้ได้ (กะว่ามาคราวนี้ ต้องเอาไปใช้ให้ได้) ยอมมันมานานแล้ว ก็มาลองดูกันว่า ใครจะอยู่ใครจะไป
First Things First
สำนวนนี้หมายถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำก่อนเพื่อนหรือก่อนอื่น ...
ตัวอย่าง
We have a lot to discuss, but, first things first, let's have a cup of coffee!
= นี่ เรามีอะไรต้องคุยกันเยอะมาก แต่สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนคือ ไปหากาแฟมากินสักแก้วหนึ่งก่อนดีไหม
Okay. If we want to have a trip, first things first:, we need to save money.
= เอาล่ะ ถ้าเราต้องการจะไปเที่ยว สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนคือ เก็บเงิน
First things first, you guys. Stop panic!
= สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนก็คือพวกคุณหยุดแตกตื่น
• I know you're eager to start shopping for a car, but first things first—you need to find out how much you can afford to spend.
• = ฉันรู้ว่าคุณอยากจะเริ่มไปหาซื้อรถแล้ว แต่สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนก็คือ จำเป็นต้องไปหาดูว่าจะ(มีปัญญา)ซื้อด้วยราคาเท่าไร
• You must set priorities and learn how to put first things first.
= คุณต้องจัดลำดับความสำคัญและเรียนรู้ที่จัดลำดับทำอะไรก่อนเพื่อน (ทำอะไรก่อนอะไรหลัง)
สำนวนต่อมาเป็นสำนวนที่เราคุ้นกันไม่น้อยแล้วก็ทีโอกาสใช้มากซะด้วยซิ
First Things First
สำนวนนี้หมายถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำก่อนเพื่อนหรือก่อนอื่น ...
ตัวอย่าง
We have a lot to discuss, but, first things first, let's have a cup of coffee!
= นี่ เรามีอะไรต้องคุยกันเยอะมาก แต่สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนคือ ไปหากาแฟมากินสักแก้วหนึ่งก่อนดีไหม
Okay. If we want to have a trip, first things first:, we need to save money.
= เอาล่ะ ถ้าเราต้องการจะไปเที่ยว สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนคือ เก็บเงิน
First things first, you guys. Stop panic!
= สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนก็คือพวกคุณหยุดแตกตื่น
• I know you're eager to start shopping for a car, but first things first—you need to find out how much you can afford to spend.
• = ฉันรู้ว่าคุณอยากจะเริ่มไปหาซื้อรถแล้ว แต่สิ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อนก็คือ จำเป็นต้องไปหาดูว่าจะ(มีปัญญา)ซื้อด้วยราคาเท่าไร
• You must set priorities and learn how to put first things first.
= คุณต้องจัดลำดับความสำคัญและเรียนรู้ที่จัดลำดับทำอะไรก่อนเพื่อน (ทำอะไรก่อนอะไรหลัง)
สำนวนต่อมาเป็นสำนวนที่เราคุ้นกันไม่น้อยแล้วก็ทีโอกาสใช้มากซะด้วยซิ
first come, first served = มาก่อน ได้ก่อน
or first come, first serve
เราใช้สำนวนนี้ตามภาษาไทยได้เลย
The mighty sale is first come, first serve, so we’d better get there early.
= การลดราคาแบบถล่มทลายเป็นแบบใครไปก่อนได้ก่อน เราก็ควรไปที่นั่นแต่เช้า
A: “Aren't there any cookies left?”
= ไม่มีคุกกี้เหลือแล้วหรือ
B: “Sorry—first come, first served.”
= เสียใจด้วย ใครมาก่อนได้ก่อน มาที่หลังก็อด
Tickets are available on a first come, first served basis.
= ตั๋วมีจำหน่ายแบบใครมาก่อนได้ก่อน มาช้าอด
เราสามารถนำประโยคนี้ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยยึดโครงสร้าง ….. available on first come, first served basis. เช่น
The cakes are available on first come, first served basis.
= ขนมเต๊กมีจำหน่ายแบบใครมาก่อนได้ก่อน เป็นต้น
คิดจะแจกอะไร หรือจำหน่ายอะไร เราสามารถใช้สำนวนนี้ได้เลย และใช้ได้ดีซะด้วยซิ
(อย่าถามว่าทำไม มันเป็นแบบนี้ กริยา come และ served มันไม่ขนานกัน ก็ขออธิบายแบบไม่อธิบายว่า ช่างมันเถอะ ยิ่งเป็นพวกสำนวนแล้ว อย่าไปหาคำอธิบายเชิงไวยากรณ์กับมันเลย ปวดหัวแน่นอน อธิบายได้ แต่กลัวจะไม่เข้าใจ เสียเวลา เอาสมองมาจำสำนวนอื่นๆที่มีประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่า )
และขอส่งท้ายด้วยสำนวนว่า อะไรก็ตามที่เราคิดหรือเห็นมันเป็นเรื่องหนึ่งแต่พอเอาเข้าจริง มันอีกเรื่อง หรือมันคนละเรื่องเลย เช่น
Romance is one thing; marriage is quite another.
= เฮ๊ย ตอนหวานแหววมันก็อย่างหนึ่ง เรื่องการแต่งงานมันก็อีกอย่างหนึ่ง (คนละเรื่องเลยคุณ)
Speaking is one thing; writing is quite another.
= การพูดมันก็เรื่องหนึ่ง แต่ไหง ตอนเขียนมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ (ชวนปวดหัวจังเลย)
It is one thing to talk about the project ; it is quite another thing to actually do this.
= การพูดเกี่ยวกับโครงการมันเรื่องหนึ่ง แต่พอทำจริงๆ มันคนละเรื่องเลย
Saying is one thing, but doing is another.
= ตอนพูดก็อย่างหนึ่ง พอทำจริงก็อีกอย่างหนึ่ง
เอาล่ะ ได้เวลาเอาไปใช้แล้วครับ
or first come, first serve
เราใช้สำนวนนี้ตามภาษาไทยได้เลย
The mighty sale is first come, first serve, so we’d better get there early.
= การลดราคาแบบถล่มทลายเป็นแบบใครไปก่อนได้ก่อน เราก็ควรไปที่นั่นแต่เช้า
A: “Aren't there any cookies left?”
= ไม่มีคุกกี้เหลือแล้วหรือ
B: “Sorry—first come, first served.”
= เสียใจด้วย ใครมาก่อนได้ก่อน มาที่หลังก็อด
Tickets are available on a first come, first served basis.
= ตั๋วมีจำหน่ายแบบใครมาก่อนได้ก่อน มาช้าอด
เราสามารถนำประโยคนี้ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยยึดโครงสร้าง ….. available on first come, first served basis. เช่น
The cakes are available on first come, first served basis.
= ขนมเต๊กมีจำหน่ายแบบใครมาก่อนได้ก่อน เป็นต้น
คิดจะแจกอะไร หรือจำหน่ายอะไร เราสามารถใช้สำนวนนี้ได้เลย และใช้ได้ดีซะด้วยซิ
(อย่าถามว่าทำไม มันเป็นแบบนี้ กริยา come และ served มันไม่ขนานกัน ก็ขออธิบายแบบไม่อธิบายว่า ช่างมันเถอะ ยิ่งเป็นพวกสำนวนแล้ว อย่าไปหาคำอธิบายเชิงไวยากรณ์กับมันเลย ปวดหัวแน่นอน อธิบายได้ แต่กลัวจะไม่เข้าใจ เสียเวลา เอาสมองมาจำสำนวนอื่นๆที่มีประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่า )
และขอส่งท้ายด้วยสำนวนว่า อะไรก็ตามที่เราคิดหรือเห็นมันเป็นเรื่องหนึ่งแต่พอเอาเข้าจริง มันอีกเรื่อง หรือมันคนละเรื่องเลย เช่น
Romance is one thing; marriage is quite another.
= เฮ๊ย ตอนหวานแหววมันก็อย่างหนึ่ง เรื่องการแต่งงานมันก็อีกอย่างหนึ่ง (คนละเรื่องเลยคุณ)
Speaking is one thing; writing is quite another.
= การพูดมันก็เรื่องหนึ่ง แต่ไหง ตอนเขียนมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ (ชวนปวดหัวจังเลย)
It is one thing to talk about the project ; it is quite another thing to actually do this.
= การพูดเกี่ยวกับโครงการมันเรื่องหนึ่ง แต่พอทำจริงๆ มันคนละเรื่องเลย
Saying is one thing, but doing is another.
= ตอนพูดก็อย่างหนึ่ง พอทำจริงก็อีกอย่างหนึ่ง
เอาล่ะ ได้เวลาเอาไปใช้แล้วครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น