คนไทยมักสับสนกับคำสองคำนี้ คำว่า affect นั้นเป็นคำกริยา อ่านว่า เออะ (เฟ๊คท์) ส่วนอีกคำหนึ่งเป็นคำนามคือ effect อ่านว่า อิ (เฟ๊คท์ ) ทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกันแต่ออกเสียงต่างกัน และสำนวนที่ เราใช้กันคือ
To affect + ใครหรืออะไร หมายถึง มีผลกระทบต่อ
• Smoking affects your health.
= การสูบบุหรี่มีผลกระต่อสุขภาพ
แล้วเพื่อไม่ให้ลืม ก็ให้จำโครงสร้างว่า to have an effect on ไว้แล้วเวลาใช้ affect ก็ให้เอาโครงสร้าง to have an effect on ไปแทนที่ให้เป็นนิสัยไว้ ทำแบบนี้ในระยะแรก แล้วเราจะจำแม่น แล้วค่อยไปต่อยอด เช่น
Smoking affects your health. แทนที่ด้วย
Smoking has an effect on your health.
หรือต้องการจะบอกว่า รถติดมีผลกระทบต่อเวลาของฉัน เราก็ใช้ว่า
Traffic jam affects my time.
แล้วทำไง ก็อย่าลืมใช้อีกโครงสร้างหนึ่งทันที นั่นคือ
Traffic has an effect on my time.
หรือ งานมีผลกระทบต่อรายได้ของฉัน เราก็ใช้ว่า
Jobs affect my income.
อย่าลืมใช้ว่า Jobs have an effect on my income.
เมื่อใช้ได้แล้ว พอมาเจอข้อสอบแบบนี้ ก็จะทำได้
Smoking ……… your health.
a. affects b. has an affect on c. affects on d. effects
เลือกดูซิว่าข้อไหนถูก นี่คือกลลวงของคนออกข้อสอบ และคนที่เรียนแบบท่องจำ ก็จะตกเป็นเหยื่อโดยง่ายดาย เนื่องจากมันคล้ายคลึงกันมากดุจฝาแฝดและมันไม่ใช่มีแค่สองคำนี้เท่านั้น คำในภาษาอังกฤษลักษณะนี้มีเป็นฝูง
The new traffic rule doesn't affect me because I don’t have a car.
= กฎจราจรใหม่มีผลต่อฉันเพราะฉันไม่มีรถ
เมื่อเจอประโยคลักษณะนี้ ให้เอาโครงสร้างที่เรียนมาเมื่อกี้นี้มาใส่ทันที เป็น
The new traffic rule doesn't have an effect on me because I don’t have a car.
เจอมันที่ไหน ก็ให้เอาไปแทนที่ซะเพราะเราจะสามารถเขียนประโยคได้อีกหนึ่งประโยคด้วย
Smartphones affect our communication.
= โทรศัพท์มีผลกระทบต่อการสื่อสาร
ใช้โครงสร้าง to have an effect on มาแทนที่ ก็จะได้เป็น
Smartphones have an effect our communication.
และอะไรก็ตามที่มีผลกระทบต่อชีวิต เราก็ใช้ว่า
สิ่งของหรือใคร affects/ affect…lives เช่น
Technology affects our lives.
= เทคโนโลยีมีผลกระทบต่อชีวิตของเรา เราก็แทนที่ด้วย
Technology has an effect on our lives.
ได้สองประโยคแล้ว
The circumstances affect their lives.
= สิ่งแวดล้อมมีผลกระทบต่อชีวิตพวกเขา
อีกประโยคหนึ่งคือ
The circumstances have an effect on their lives.
ทำให้เป็นอัตโนมัติให้ได้
have an effect on something/somebody ออกเสียงว่า อิ (เฟ๊คท์)
= มีผลกระทบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง เช่น
Mom’s decision has an effect on me.
= การตัดสินใจของแม่มีผลกระทบต่อตัวฉัน
Eating junk food will eventually have an effect on your health.
= ในที่สุดแล้ว การกินอาหารขยะจะมีผลกระทบต่อสุขภาพคุณ
อีกประโยคหนึ่งก็คือ Eating junk food will eventually affect your health.
The workers’ strike had a major effect on transportation.
= การประท้วงของคนงานส่งผลกระทบมากต่อการเดินทาง
ให้เราพยายามจำโครงสร้าง to have an effect on + สิ่งใดหรือใคร ให้ได้ก่อน
จากนั้นค่อยเอาคำคุณศัพท์พวกนี้ไปแต่งต่อ
small / little เล็กน้อย
big / major = ใหญ่
significant / substantial / marked = ใหญ่โต มากมาย มหาศาลทีเดียว
powerful / profound = ที่มากมายแบบเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้เลย
immediate = อย่างฉับพลัน อย่างกะทันหัน เดี๋ยวนั้น
negative = ในแง่ลบ positive = ในแง่บวก
beneficial = ในแง่ที่เป็นประโยชน์
harmful = ที่เป็นอันตราย
เมื่อเราเรียนรู้โครงสร้างหลักได้แล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวที่เราจะได้มาเล่นกับมันโดยการตกแต่งให้ประโยคสวยงาม ดูดีมีระดับ เช่น
Smoking has an effect on health.
= การสูบบุหรี่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
เราก็เอาคำขยายมาใส่ได้แล้ว เช่น
Smoking has a negative effect on health.
= การสูบบุหรี่มีผลกระทบไม่ดีต่อสุขภาพ
Smoking has a harmful effect on health.
= การสูบบุหรี่มีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
Smoking has a major effect on health.
= การสูบบุหรี่มีผลกระทบสำคัญต่อสุขภาพ
หรือ
The new policy has a good effect on education.
= นโยบายใหม่มีผลดีต่อการศึกษา
Walking meditation has a positive effect on my mental health.
= การเดินจงกรมมีผลดีต่อสุขภาพจิตของฉัน
The high cost of living has a significant effect on people’s lives.
= ค่าครองชีพที่สูงมีผลกระทบต่อชีวิตผู้คนอย่างมาก
The rising oil prices have a tremendous effect on economy.
= น้ำมันที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
หน้าที่หลักของเราคือ หาประโยคที่ถูกใจให้ได้แล้วจำไว้ จากนั้นก็เอามาใส่คำคุณศัพท์ ทำให้มันหวือหวา เพราะแต่ละคนเจออะไรมาไม่เหมือนกัน แต่มันก็ต้องมีทั้งดีและไม่ดี แรงเบา หนักหนาสากรรจ์ ขนาดไหน ก็เอามาใส่กันเอง
Alcohol has an effect on my dad.
= เหล้ามีผลกระทบกับพ่อ
มาบรรยายต่อว่า มีผลกระทบแบบไหนดี นึกดู
เอาแบบเป็นอันตรายดีไหม ถ้าเห็นด้วย ก็ไปหยิบเอาคำว่า อันตรายมา ซึ่งก็ได้แก่ harmful เอามาใส่ลงไป ก็จะได้ว่า
Alcohol has a harmful effect on my dad.
= เหล้ามีผลที่เป็นอันตรายต่อพ่อ
หากคิดถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ก็เอามาแต่งประโยคได้ว่า
อุทกภัยมีผลกระทบต่อพี่น้องภาคใต้ (หากอ่านบทเรียนย้อนหลังไป ก็จะพอระลึกชาติได้)
The flood had an effect on the residents of the south.
ยังไม่พอ ต้องบรรยายต่ออีกว่า มีผลกระทบอย่างไร หนักเบา โหด อะไรก็ใส่ไป เป็น
The flood had an immediate effect on the residents of the south.
= อุทกภัยมีผลฉับพลันต่อพี่น้องภาคใต้
ทำแบบนี้เรื่อยไป ไม่มีโอกาส ก็เอามาเขี่ยะเล่นไปมา เดี๋ยวก็เก่งเอง
คำที่นาสนใจคือ effective อ่านว่า อิ (เฟ๊ค) ถิฝ หมายถึง ที่มี ประสิทธิผล มีผลใช้บังคับ เซ่น
The agreement is effective from today.
= ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้
คำว่า effect ที่นำไปใช้ในวงการบันเทิง เซ่น sound effects คน ไทยจะออกเสียงผิดว่า ซาว เอ๊ฝเฟ๊ค ซึ่งที่ถูกต้องนั้นต้องออกเสียงว่า ซาว อิ (เฟ๊คส์ ) และ special effects อ่านว่า สะ (เป)เชิ่ล อิ (เฟ๊คส์) หมายถึง เทคนิคพิเศษทางภาพและเสียง คำว่า effects ในที่นี้มี “s” ตลอดกาล ดังนั้นหากจะบรรยายว่า เขาเป็นคนที่ออกแบบเทคนิคพิเศษ ก็ต้องใช้ ว่า He is a special effects designer.
side effect (s) อ่านว่า ซายด์ อิ (เฟ๊ค)(ส์) หมายถึง ผลข้างเคียง
The sleeping pill may have some side effects on patients.
= ยานอนหลับอาจมีผลข้างเคียงกับคนไข้ได้ คำว่า คนไข้ อ่านว่า (เพ) เชิ่นส์ อย่าไปอ่านว่า เพ เทิ่นส์ อีกนะ ขอร้องพอกันที
Stomach ache is a side effect.
= อาการปวดท้องเป็นผลข้างเคียง
The drug has a few side effects.
= ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงเล็กน้อย
Side effects include skin rashes and nausea.
= ผลข้างเคียงคือ ผื่นแดงที่ผิวหนังและอาการคลื่นเหียน (คลื่นไส้) อ่านว่า (นอ ) เซีย
The medication can have adverse side effects on the patient.
= ยาตัวนี้อาจมีผลข้างเคียงที่ไม่ดีต่อคนไข้ได้
These policy changes could have beneficial side effects on the overall economy.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น