ตอน 1
การรับโทรศัพท์เป็นสิ่งจำเป็นเพราะในชีวิตเราต้องใช้มันตลอดเวลา เรามาดูกันว่า การรับแบบกันเองและแบบทางการมันมีวิธีการพูดอย่างไร
การรับโทรศัพท์อย่างเป็นทางการ
ทั้งหมดมีความหมายว่า
การโทรไปหาอย่างเป็นทางการหรืออย่างสุภาพนั้นสามารถพูดได้ว่า สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ
• ‘Hello’สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ
• ‘Good Morning’ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ
• ‘Good Afternoon’ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ
• Good Evening สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ
• ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า โทรไปช่วงไหน
• จากนั้นต่อด้วยสำนวนว่า บอกว่าใครกำลังพูด
• ‘This is _ชื่อคนที่โทร__ speaking’
• (นี่....ชื่อคนโทร ครับ / ค่ะ) (คำว่า speaking หมายถึง พูดอยู่) เช่น
• Good morning. This is Seksan speaking.
• สวัสดีครับ เสกสรรพูดอยู่ครับ
• (ขอเรียนสายหรือขอพูดสายกับใครก็ใช้ว่า)
• ‘Could I speak to ___ please?’ (ขอพูดกับ หรือขอสายกับ...)
• ‘I would like to speak to ___’ (ขอพูดสายกับ....)
• ‘I’m trying to contact ___’ (ขอพูดสายกับ....)
• ทั้งหมดพูดต่อกันไปเลยรวดเดียว
• Good morning. This is Seksan speaking. Could I speak to Peter, please.?
• (ฝึกใช้ประโยคนี้ก่อนเลย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วฝึกพูดตามไป)
• แต่ถ้าเป็นคนกันเอง เป็นเพื่อน ญาติสนิทมิตรสหาย พี่พ้องน้องเพื่อน เราก็ต้องใช้แบบกันเอง นั่นคือ
แบบกันเอง
• ‘Hi’ (หวัดดี จ้า หวัดดีโว๊ย )
• ‘It’s ___ here’ (หวัดดี นี่.....พูดอยู่นะ)
• ‘I am trying to get in touch with ___’ (ขอพูดกับ....)
• ‘Is ___ there , please?’ (.....อยู่ตรงนั้นไหม?)
• เช่น Is Peter there, please? (ปีเตอร์อยู่แถวนั้นไหม ขอพูดด้วยหน่อย)
แต่ถ้าหากเป็นทางการแบบธุรกิจ ก็ต้องออกอาการแบบนี้
• ‘I am calling from ___ (ผมหรือดิฉันโทรจาก.....)
• I’m calling on behalf of ___’ (ผมหรือดิฉันโทรมาในนามของ.....)
เวลาตอบแบบสุภาพ
• ‘Hello, this is ___ speaking’ (สวัสดีครับ / ค่ะ .....พูดสายอยู่ ครับ / ค่ะ / จ้ะ)
• ‘___ speaking, how may I help you?’
(ชื่อ + พูดสายอยู่ ครับ / ค่ะ / จ้ะ)
แบบกันเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น