There will always be someone
who can’t see your worth.
Don’t let it be you.
ถ้าจะมีใครไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา
ก็อย่าให้คนนั้นเป็นตัวเราเองก็แล้วกัน
ศัพท์สำนวน
ปกติคำว่า worth หมายถึง คุณค่า มีความหมายเหมือนกับคำว่า value แต่ส่วนใหญ่ที่เจอ มักจะใช้ในสำนวน to be worth + doing หมายถึง ไม่คุ้มค่าในการทำ เช่น The film is not worth watching. = หนังเรื่องนี้ไม่คุ้มค่าที่จะไปดู The book is worth buying. = หนังสือเล่มนี้ซื้อแล้วคุ้ม This facebook is worth following. = เฟสบุ๊คนี้น่าติดตาม เป็นต้น
เพราะฉะนั้น อะไรที่ทำแล้วคุ้มค่าก็ใช้สำนวนนี้ไปบรรยาย หรืออะไรที่ไม่คุ้มค่าก็ใช้ not เข้าไปช่วย
ส่วนสำนวนต่อไปนี้ ก็น่าจำไปใช้เช่นกัน เวลาเราต้องการจะบรรยายว่า สิ่งนั้นมันไม่คุ้มค่ากับเวลาหรือความพยายามที่เราทุ่มเทไป เราก็สามารถใช้ว่า
It’s not worth our time. It’s not worth our effort.จำไปใช้แค่นี้ก็คุ้มแล้วเพราะสิ่งต่างๆที่เราทำมักจะคุ้มหรือไม่คุ้มกับเวลาและความพยายามทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าหากมันคุ้มเราก็เอา not ออก ก็แค่นี้ ใช้ได้ในทุกสถานการณ์
ส่วน Let it be. ก็มาจากโครงสร้าง to let + กรรม + กริยาไม่ผัน เช่น Let it go. = ปล่อยมันไปเถอะ Let me go. ปล่อยฉันไปเถอะ Let him speak. = ปล่อยให้เขาพูด Let it be. ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้นเถอะ อย่าไปสนใจอะไรมันมากเลย และสำนวน Let oneself go. ก็หมายถึง ปล่อยตัวเองให้สบายๆ เช่น When you feel stressed, it’s better to let yourself go for a while. = ตอนเครียด ดีกว่านะที่จะพักผ่อน ปล่อยตัวเองสบายๆสักแป๊บหนึ่งก็ยังดี หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่สนใจรูปร่างหน้าตาว่าจะเป็นยังไง เอาว่า เป็นมากกว่าปลงอีก เช่น She has let herself go since her husband died. = ตั้งแต่สามีเสีย หล่อนก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัว My friend has let himself go since his girlfriend left. = เพื่อฉันมันปล่อยเนื้อปล่อยตัวตั้งแต่แฟนทิ้ง เพราะฉะนั้น คาถาทำลายความเครียดก็คือ Let it go. ปล่อยมันไป Let it be. = อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดไปเถอะ และทุกสำนวนที่เกี่ยวกับปล่อยไป จำไว้ใช้กับตัวเองด้วยเพราะในที่สุด ไม่เราก็เขาก็ต้องจากกันไปสักวัน เร็วหรือช้าเท่านั้นเอง หากเราไหวตัวปล่อยมันไปก่อน จะดีกว่าไหม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น