วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560

การอธิบายความเพิ่ม

You know ,“Happiness and peace are not dependent on possessions and circumstances.”

นี่ จะบอกอะไรให้ ความสุขและความสงบไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้าวของและปัจจัยภายนอก

หากเราไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนหนึ่งพูด และอยากรู้ว่า เอ แล้ว you อยากจะบอกว่าอะไร หรืออยากจะสื่อว่าอะไร เราอาจถามด้วยคำถามว่า
1. I’m afraid I am not quite clear what you mean.
(ผมหรือฉันเกรงว่า ตัวเองไม่เคลียร์ในสิ่งที่พูด)
2. I’m sorry, I don’t understand what you mean.
(ขอโทษนะที่ไม่เข้าใจสิ่งที่พูด)
3. I’m sorry, but could you explain what you mean.
(ขอโทษด้วย ช่วยอธิบายอีกครั้งได้ไหม)
4. What exactly are you trying to say ?
(คุณพยายามจะสื่ออะไร)
5. What (exactly) are you getting at ?
(คุณต้องการจะสื่ออะไร)
คำตอบ ก็สามารถใช้ว่า

1) The point I am trying to make is that …
ประเด็นที่กำลังพยายามจะบอกก็คือ......
2) I’d like to explain that … อยากจะอธิบายว่า หรืออยากจะสื่อว่า...
3) I’m sure you’ll understand that what I’m trying to say is… มั่นใจว่าคุณจะเข้าใจสิ่งที่พยายามจะสื่อนั่นก็คือ.....
4) What I mean is … สิ่งที่ต้องการจะบอกก็คือ...
5) All I am saying is … ที่กำลังพูดก็คือ.....

ตามด้วยคำอธิบายเพิ่ม

Material possessions, money and fame, might bring temporary happiness, but true happiness and inner peace come from within you. They do not depend on your possessions, status or circumstances.

ข้าวของที่เป็นวัตถุ เงินและชื่อเสียง อาจนำความสุขชั่วคราวมาให้แต่ความสุขที่แท้จริงและความสงบภายในเกิดจากตัวเรา ความสุขที่แท้จริงและความสงบภายในไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทอง หรือปัจจัยภายนอก
Material เหมอะ (เทีย) เรียล) หมายถึง ที่เกี่ยวกับวัตถุ สำนวนที่เห็นบ่อยคือ the material world = โลกวัตถุนิยม
We live in the material world. = เราอยู่กับโลกวัตถุนิยม The material world brings us incessant passions. = โลกวัตถุนิยมนำมาซึ่งความอยากไม่รู้จักจบจักสิ้น คำว่า passions = desires คำว่า passion จำง่าย ให้จำจาลูกเสาวรส ฝรั่งเขาใช้ว่า passion fruits = ผลไม่ที่ทำให้เกิดความอยาก หรือความต้องการ คำว่า incessant ที่ไม่หยุดไม่หย่อน
Temporary = ชั่วคราว อ่านว่า (เท็ม) เผอะ เร รี่ เช่น a temporary job = งานชั่วคราว a temporary residence = ที่พักอาศัยชั่วคราว ตรงข้ามคือ permamen อ่านว่า (เพอร์ ) เหมอะ เนิ่นท์
สำนวน to depend on = ขึ้นอยู่กับ หรือพึ่งพิง พึ่งพา ได้หมด เช่น My life depends on you. = ชีวิตฉันขึ้นอยู่กับคุณนะ Thailand’s economy depends on export and tourism.
= เศรษฐกิจของประเทศไทยขึ้นอยู่กับการส่งออกและการท่องเที่ยว และคำคุณศัพท์คือ to be dependent on ใช้แทนที่กันได้เลย เวลาใช้ก็หมั่นเอาไปเขียนแทน เช่น My life depends on you. = My life is dependent on you. หรือ
Thailand’s economy depends on export and tourism. =Thailand’s economy is dependent on export and tourism.
สำนวนที่น่าจำอีกอันหนึ่งก็คือ It / That depends. หมายความว่า สุดแท้แต่ หรือ ก็แล้วแต่ (เราไม่สามารถให้คำตอบได้เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น I don’t know when I will get there. It depends. = ไม่รู้ว่าจะไปถึงที่นั่นเมื่อไร แล้วแต่
และหากต้องการจะบอกว่า แล้วแต่คุณ แล้วแต่เขา แล้วแต่อะไรหรือใครก็แล้วแต่เราสามารถใช้ว่า It depends on him. , It depends on you. ซึ่งจะใช้มากเมื่อมีการชวนทำอะไรแล้วเราตัดสินใจไม่ได้หรือไม่อยากตัดสินใจ เช่น What would you like to eat? อยากทานอะไร It depends on you. = แล้วแต่คุณ
Possessions เผอะ (เซส) เชิ่นส์ หมายถึง ทรัพย์สิน ข้าวของ ต่างๆ มาจากคำว่า to possess อ่านว่า เผอะ (เซส) คำว่า possessions มักเจอในข้อความในโรงหนังว่า Check your possessions before leaving. = กรุณาตรวจดูข้าวของหรือทรัพย์สินก่อนออกไป หรืออีกหนึ่งสำนวนคือ Don’t leave your possessions unattended.= อย่าเที่ยวทิ้งข้าวของไว้ (ให้ดูแลด้วย) คำว่า unattended = ไม่มีคนดูแล คำว่า status อ่านว่า เสอะ (เต) เติส หมายถึง สถานภาพ (ในสังคม) และ circumstances (เซอร์ ) เคิมส์ แตนส์ (เสิส) หมายถึง ปัจจัยภายนอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น