Developing a stillness of mind and strength of heart
can bring us great spiritual growth.
They are used as means to ripen us,
...
can bring us great spiritual growth.
They are used as means to ripen us,
...
to bring us face to face with our life,
and to help us see it in a new way.
การทำใจให้นิ่งและเข้มแข็งเป็นการเติบโตทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่
ทำให้เราสามารถเผชิญกับสิ่งต่างๆในชีวิต
และมองเห็นชีวิตในมุมใหม่
การฝึกฝน จิตใจ นั้นยิ่งใหญ่
หากทำได้ จะเติบใหญ่ น่าเกรงขาม
จะนำพา ชีวิต ให้งดงาม
ไม่ครั่นคร้าม สิ่งใดใด ไม่คิดกลัว
ช่วยให้เรา ได้เห็นโลก ในมุมใหม่
ช่วยให้ใจ ไม่หวั่นไหว ได้ฮึกเหิม
เพิ่มพลัง ให้หัวใจ ดวงเดิมๆ
เหมือนได้เสริม อาวุธร้าย ไว้ภายใน
ศัพท์สำนวน
คำว่า means เป็นได้ทั้งคำนามนับได้และนับไม่ได้ หากต้องการให้เป็นคำนามนับได้ก็เช่น
Reading newspapers is a means of self-learning.
= การอ่านหนังสือพิมพ์เป็นวิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างหนึ่ง
หากต้องการใช้เป็นพหูพจน์ก็ใช้ได้เช่น
Talking to foreigners and watching TV are two effective means of learning a language.
= การพูดคุยและการดูทีวีเป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาที่มีประสิทธิผลมาก
สำนวน spiritual growth นั้นก็คือ การเติบโคทางจิตวิญญาณ หรือการฝึกฝนด้านจิตวิญญาณนั่นเอง
ส่วนกริยา to ripen นั้นโดยปกติหมายถึง สุกหรือทำให้สุก แต่เมื่อนำมาใช้กับจิตใจก็จะหมายถึง ทำให้เติบโตเต็มที่ คำนี้ปกติใช้กับผลไม้หรือพืชผล เช่น It takes a couple of days for durians to ripen. = ใช้เวลาอีกสองสามวันกว่าทุเรียนจะสุก Farmers pick unripe mangoes and leave them to ripen for a week. = ชาวสวนเก็บมะม่วงดิบและปล่อยทิ้งไว้ให้สุกเป็นเวลา 1 อาทิตย์
If you want to speed up the ripening process of mangoes, place them in a paper bag at room temperature. = ถ้าต้องการเร่งให้มะม่วงสุกเร็ว เอาไปใส่ในถุงกระดาษเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง
คำคุณศัพท์คือ ripe หมายถึง ที่สุก เช่น This mango is ripe. = มะม่วงลูกนี้สุกแล้ว เป็นต้น
สำนวนว่า face to face เห็นเขาที่ไหน ก็จะหมายถึง เจอกัน หรือเห็นกัน เช่น I’ve never met her face to face. = ฉันไม่เคยเห็นเธอแบบตรงๆเลย I don’t’ want to talk about this on the phone. I wanted to explain things face to face.= ฉันไม่อยากจะถกเถียงทางโทรศัพท์ อยากอธิบายแบบเห็นหน้ากัน
One say we will come face to face with death. = วันหนึ่งเราก็ต้องเผชิญกีบความตาย
It is the first time that I have come face to face with depression.= นับเป็นครั้งแรกที่ฉันเจอกับความหดหู่
he’d ever come face to face with death
สำนวนว่า to bring + ใครคนใดคนหนึ่ง + face to face with + สิ่งใด ก็หมายถึง ทำให้หรือนำมาให้เผชิญหน้าและจัดการกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง She was brought face to face with the evidence that she had to admit. = หล่อนเจอกับหลักฐานที่ต้องยอมรับ และถ้าไปเจอ face-to-face มีเครื่องหมาย – อยู่ ก็ไม่ต้องตกใจไป ให้จำไว้ว่า วางไว้หน้าคำนามเท่านั้น เช่น a face-to-face talk = การคุยกันแบบตัวต่อตัว (เห็นหน้ากัน)
คำว่า to develop อ่านว่า ดิ (เว) เลิพ หมายถึง พัฒนา จะใช้พัฒนาอะไรก็เอาสิ่งนั้นไปไว้ข้างหลัง ได้หมด คำนี้กว้างมาก
ส่วน by developing a stillness of mind ก็คือ ความนิ่งของจิตใจ คำนี้มาจากคำว่า still ซึ่งหมายถึง นิ่ง และ strength of heart หมายถึง ความเข้มแข็งของใจ นั่นเอง
and to help us see it in a new way.
การทำใจให้นิ่งและเข้มแข็งเป็นการเติบโตทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่
ทำให้เราสามารถเผชิญกับสิ่งต่างๆในชีวิต
และมองเห็นชีวิตในมุมใหม่
การฝึกฝน จิตใจ นั้นยิ่งใหญ่
หากทำได้ จะเติบใหญ่ น่าเกรงขาม
จะนำพา ชีวิต ให้งดงาม
ไม่ครั่นคร้าม สิ่งใดใด ไม่คิดกลัว
ช่วยให้เรา ได้เห็นโลก ในมุมใหม่
ช่วยให้ใจ ไม่หวั่นไหว ได้ฮึกเหิม
เพิ่มพลัง ให้หัวใจ ดวงเดิมๆ
เหมือนได้เสริม อาวุธร้าย ไว้ภายใน
ศัพท์สำนวน
คำว่า means เป็นได้ทั้งคำนามนับได้และนับไม่ได้ หากต้องการให้เป็นคำนามนับได้ก็เช่น
Reading newspapers is a means of self-learning.
= การอ่านหนังสือพิมพ์เป็นวิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างหนึ่ง
หากต้องการใช้เป็นพหูพจน์ก็ใช้ได้เช่น
Talking to foreigners and watching TV are two effective means of learning a language.
= การพูดคุยและการดูทีวีเป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาที่มีประสิทธิผลมาก
สำนวน spiritual growth นั้นก็คือ การเติบโคทางจิตวิญญาณ หรือการฝึกฝนด้านจิตวิญญาณนั่นเอง
ส่วนกริยา to ripen นั้นโดยปกติหมายถึง สุกหรือทำให้สุก แต่เมื่อนำมาใช้กับจิตใจก็จะหมายถึง ทำให้เติบโตเต็มที่ คำนี้ปกติใช้กับผลไม้หรือพืชผล เช่น It takes a couple of days for durians to ripen. = ใช้เวลาอีกสองสามวันกว่าทุเรียนจะสุก Farmers pick unripe mangoes and leave them to ripen for a week. = ชาวสวนเก็บมะม่วงดิบและปล่อยทิ้งไว้ให้สุกเป็นเวลา 1 อาทิตย์
If you want to speed up the ripening process of mangoes, place them in a paper bag at room temperature. = ถ้าต้องการเร่งให้มะม่วงสุกเร็ว เอาไปใส่ในถุงกระดาษเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง
คำคุณศัพท์คือ ripe หมายถึง ที่สุก เช่น This mango is ripe. = มะม่วงลูกนี้สุกแล้ว เป็นต้น
สำนวนว่า face to face เห็นเขาที่ไหน ก็จะหมายถึง เจอกัน หรือเห็นกัน เช่น I’ve never met her face to face. = ฉันไม่เคยเห็นเธอแบบตรงๆเลย I don’t’ want to talk about this on the phone. I wanted to explain things face to face.= ฉันไม่อยากจะถกเถียงทางโทรศัพท์ อยากอธิบายแบบเห็นหน้ากัน
One say we will come face to face with death. = วันหนึ่งเราก็ต้องเผชิญกีบความตาย
It is the first time that I have come face to face with depression.= นับเป็นครั้งแรกที่ฉันเจอกับความหดหู่
he’d ever come face to face with death
สำนวนว่า to bring + ใครคนใดคนหนึ่ง + face to face with + สิ่งใด ก็หมายถึง ทำให้หรือนำมาให้เผชิญหน้าและจัดการกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง She was brought face to face with the evidence that she had to admit. = หล่อนเจอกับหลักฐานที่ต้องยอมรับ และถ้าไปเจอ face-to-face มีเครื่องหมาย – อยู่ ก็ไม่ต้องตกใจไป ให้จำไว้ว่า วางไว้หน้าคำนามเท่านั้น เช่น a face-to-face talk = การคุยกันแบบตัวต่อตัว (เห็นหน้ากัน)
คำว่า to develop อ่านว่า ดิ (เว) เลิพ หมายถึง พัฒนา จะใช้พัฒนาอะไรก็เอาสิ่งนั้นไปไว้ข้างหลัง ได้หมด คำนี้กว้างมาก
ส่วน by developing a stillness of mind ก็คือ ความนิ่งของจิตใจ คำนี้มาจากคำว่า still ซึ่งหมายถึง นิ่ง และ strength of heart หมายถึง ความเข้มแข็งของใจ นั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น