วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Talking about class

         Talking about class
พูดเกี่ยวกับวิชาที่เรียน
คำเตือน : คำออกเสียงที่ลงให้ดูนั้น มีเสียง “th” ซึ่งในภาษาไทยเราไม่มี ต้องไปหาฟังตาม internet หลักการอ่านออกเสียงตัวนี้ ให้เอาปลายลิ้นมาวางไว้ตรงกลางระหว่างฟันล่างกับฟันบนก่อนออกเสียง
A: Hi! How’re you doing?
(ไฮ๊) //ฮาว เหยอะ (ดู ) อิ่ง)
หวัดดี เป็นไงบ้าง
B: Good! And you?
(กู๊ด) / เอิน (ยู๊)
สบายดี แล้วแกล่ะ
A: Great! (เกร๊ท) สบายดีว่ะ
B: When does your class start?
เว็น เดิส ยัวร์ (แคล๊ส) สะ(ตาร์ท)
เริ่มเรียนตอนกี่โมง
A: It starts at 9 am.
(อิท สะ (ต๊าร์ท) แอ็ท (นาย) เอ (เอ็ม)
เริ่มตอนเก้าโมงเช้า
B: What do you learn today?
(ว๊อท) ดู ยู (เลิร์น) เถอะ(เดย์)
วันนี้เรียนอะไร
A: I have three classes: English, accounting, and business administration.
(ไอ แฮ็ฝ (ธรี) (แคล๊ส)ซิส : (อิง) ลิช / เออะ(เค๊า)ทิ่ง / แอน (บี)เสอะเนิส เอิดมิเนิส(เตร)เชิ่น)
ก็มีเรียนสามวิชา ภาษาอังกฤษ บัญชี และบริหารธุรกิจ
หากเป็นวิชาทั่วๆไปก็จะมี English , history (ฮีส ทรี่) (เน้นพยางค์แรก) ประวัติศาสตร์, geography (จี อาเกรอะฟี่) (เน้นคำว่า อา )ภูมิศาสตร์, drawing (ดรอ อิ่ง) (เน้นคำว่า ดรอ ) วาดเขียน, physical education (ฟีซิเคิล เอ็จฉุเคเชิ่น) (เน้นคำว่า ฟี และ เค ) พละ , mathematics (แม เถอะแมติคส์) (เน้นคำว่า แม )เลข,
biologyบาย (อา)เลอจี่ (เน้นคำว่า อา ) ชีวะวิทยา, physics (ฟิสิคส์)
B: It’s pretty tough, isn’t it?
(อิส (พริ)ที่ (ถั๊ฝ) / (อี๊ส) เซิ่น (ซิท)
ค่อนข้างโหดเนอะ
A: Not really. I get used to it.
(น๊อท (เรียล)ลี่ // ไอ เก็ท (ยูส) เถอะ อิท)
ก็ไม่เชิงหรอก ฉันชินกับมันแล้ว
How many classes do you have today?
(ฮาว (เม)นี่ (แคล๊ส)ซิส ดู ยู (แฮ็ฝ) เถอะ (เดย์)
ว่าแต่ว่า วันนี้มีเรียนกี่ตัวล่ะ
B: I have four classes in a row.
(ไอ แฮ็ฝ (ฟอร์) (แคล๊ส)ซิส อิน เออะ (โรว์)
ก็มีเรียนสี่วิชารวด
My first class starts at 10 and my last class ends at 4 pm.
มาย (เฟิร์ส) (แคล๊ส) สะ(ต๊าร์ท) แอ็ท (เท็น)/ แอน มาย (แล๊สท์) (แคล๊ส) (เอ็นส์) แอ็ท (ฟอร์) พี (เอ็ม))
วิชาแรกเริ่มตอน 10 โมงเช้า และวิชาสุดท้ายเลิกตอน 4 โมงเย็น
A: Don’t you have any break? How can you make it?
(ด๊อน) เหยอะ (แฮ็ฝ) (เอ)นี่ (เบร๊ค) // ฮาว เคิน เหยอะ (เม๊ค ) ขิท)
ไม่พักบ้างเลยหรือ ทำได้ไงเนี่ยะ
B: You know! This is my last semester. I’m going to graduate next April, so I have to work hard.
(เหยอะ (โน๊) // ดีส ซีส มาย (แล๊ส) เสอะ (เมส) เตอร์ (เน้นพยางค์ เมส ) // แอม (โก)อิ่ง เถอะ (แกร) เฉอะเล็ท (เน้นพยางค์ แกร ) (เน๊กซ์) (เอ)
-เพริ่ล / โซ / ไอ (แฮ็ฝ) เถอะ (เวิร์ค) (ฮาร์ด)
ก็รู้นี่ เทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายของฉันแล้ว ฉันกำลังจะจบเมษาหน้า ดังนั้น ก็ต้องขยันหนักหน่อยซิ
A: What’s your plan after you finish college? ((ว๊อส) เยอร์ (แพลน )/(แอ็ฟ)เทอร์ เหยอะ (ฟิ)นิช (ค๊า) ลิจ)
จบแล้วจะไปทำอะไร
B: Well, I plan to work as an engineer for a couple of years in a small company. I want to gain more experience in the field I learn. And after that, I plan to work in an international company.
(เว๊ล //ไอ (แพลน) เถอะ (เวิร์ค) แอส แอน เอ็นจี(เนียร์) ฟอร์ เออะ (คัพ)เพิล เอิฟ (เยียรส์) อิน เออะ สะ(มอล) (คัม) เผอะนี่ //ไอ (ว๊อน) เถอะ (เกน) มอร์ เอ็กส์(ปี)เรี่ยนส์ อิน เดอะ (ฟีลด์) ไอ (เลิร์น) //(แอ็ฝ)เตอร์ แด็ท //ไอ (แพลน) เถอะ (เวิร์ค) อิน แอน อินเทอร์ (แน) เชิ่นเนิล (คัม)เผอะนี่)
คืองี้ กะว่าจะไปทำงานเป็นวิศวกรสักสองปีในบริษัทเล็กๆ ฉันอยากจะได้ประสบการณ์มากกว่านี้ในสาขาที่ฉันเรียนมา และก็กะจะทำงานในบริษัทระดับชาติไปโน่นเลย)
A: You have a good plan.
(เหยอะ แฮ็ฝ เออะ (กู๊ด) (แพลน)
วางแผนดีเนอะ
B: You’re right. If we don’t plan well, we will hardly succeed.
(เยอร์ ไร๊ท์ // อี๊ฝ วี ด๊อน แพลน เวล / วี วิว ฮาร์ดลี่ เสิคซีด)
แม่นแล้ว ถ้าเราวางแผนไม่ดี เราก็จะประสบผลสำเร็จยากนะซิ
A: Oh! It’s 7.50. I have got to go now. My teacher is very strict. Any students coming to class even one minute late are not allowed to study.
(โอ / อิส (เซ) เวิ่น (ฟิฟ) ที่ / / ไอ แฮ็ฝ (ก๊าท) เถอะ (โก) นาว // มาย (ทีช) เชอร์ อีส (เว)รี่ สะ (ตริ๊คท์) // เอนี่ สะ (ติว) เดิ่นส์ (คัม) มิ่ง เถอะ (แคล๊ส) (อี)เวิ่น วัน (มิ)นิท เลท / อาร์ น๊อท เออะลาว เถอะ สะตะดี้)
นี่แก มัน เจ็ดโมงห้าสิบแล้ว ฉันต้องไปก่อนล่ะ ครูฉันนะเข็มงวดฉิบเป๋งเลย นักเรียนคนไหนมาสายแค่หนึ่งนาที พี่แกไม่ให้เรียน
B: See you! (ซี เหยอะ) ไปก่อนนะ
A: See you! ซี เหยอะ) แล้วเจอกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น