วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

Life is too short

Life is too short to wake up in the morning with regrets. So love the people who treat you right and forget about the ones who don’t. And believe that everything happens for a reason…
if you get a chance, take it;
if it changes your life, let it.
ชีวิตสั้นเกินกว่าจะตื่นมาแล้วรู้สึกเสียใจ
รักคนที่ดีต่อเราและลืมคนที่ไม่ดีกับเราซะ เชื่อเถอะว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมันต้องเกิด หากเราได้โอกาสนั้นแล้ว ก็ใช้ซะ ถ้ามันจะเปลี่ยนชีวิตเรา ก็ปล่อยให้มันเปลี่ยนไป...
สำนวน
Reason หมายถึง เหตุผล เช่น
That’s a very good reason.
= นั่นเป็นเหตุผลที่ดีมาก
He has a good reason to trust you.
= เขามีเหตุผลที่จะไว้ใจคุณ
There is no reason to doubt what she says.
= ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะสงสัยสิ่งที่หล่อนพูด
There is every reason to start my own business.
= มีเหตุผลทุกประการที่จะเริ่มทำธุรกิจตัวเอง
สำนวน to happen for a reason = เกินขึ้นเพราะต้องเกิด เช่น
Everything happens for a reason.
= ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเพราะต้องเกิด
We are here for a reason.
= เรามาที่นี่ด้วยเพราะต้องมา
Regret = ความเสียใจหรือเสียใจ
To regret + to หมายถึง เสียใจที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
I regret to tell you that I can’t go with you.
= ฉันเสียใจที่จะบอกคุณว่า ฉันไปด้วยไม่ได้
To regret + กริยา ing หมายถึง เสียใจกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
He regrets quitting his job.
= เขาเสียใจกับการลาออกจากงาน
I regret telling you a lie. = ฉันรู้เสียใจกับการโกหกคุณ
I regret to tell you a lie. = ฉันรู้สึกเสียใจที่จะโกหกคุณ
คำว่า regret เป็นคำนาม หมายถึง ความเสียใจ เช่น
I have no regrets about quitting the job.
= ฉันไม่เสียใจเลยที่ลาออกจากงาน
He had no regrets about the divorce.
= เขาไม่ได้เสียใจเรื่องหย่าเลย
I will have no regrets about the poor grade.
= ฉันจะไม่เสียใจเลยเรื่องเกรดที่ไม่ดี
I will do it with no regrets.
= ฉันจะทำมันโดยไม่รู้สึกเสียใจเลย

Be grateful


Be grateful for all the obstacles in your life. They have strengthened you as you continue with your journey.


จงขอบคุณอุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิต


เพราะมันทำให้เราเข้มแข็งในการก้าวเดินต่อ


สำนวน


Grateful = ที่กตัญญู ที่รู้สึกขอบคุณ เช่น


He is a grateful son. = เขาเป็นลูกกตัญญู


I feel very grateful for your assistance.


= ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่ช่วย


I am really grateful for everything you have done for me.


= ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำให้


He felt grateful to his boss for the support.


= เขารู้สึกขอบคุณหัวหน้าที่ส่งเสริมเขา


สำนวน I would be grateful if + S + could / would + กริยา ไม่ผัน เช่น


 I would be grateful if you could tell me how to do it.


= ฉันจะรู้สึกขอบคุณมากถ้าคุณช่วยบอกวิธีทำ


I would be grateful if you would attend the meeting.


= ฉันจะรู้สึกขอบคุณมากถ้าคุณจะเข้าร่วมประชุม


I would be grateful if you could help me carry the heavy box.


= ฉันจะรู้สึกขอบคุณมากถ้าคุณจะช่วยแบกกล่องหนักกล่องนี้


วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560

หาคนที่ใช่

Find another person. Because if they are not there for you; then why waste your time being there for them. When someone truly loves back, they will do everything they can to make you happy.
หาคนใหม่เถอะ หากใจเขาไม่อยู่กับเราแล้ว
จะเสียเวลารอทำไม เมื่อมีคนที่รักเราจริงรออยู่
เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้เรามีความสุข

สำนวน
To be there for + คนใดคนหนึ่งหมายถึง พร้อมช่วยเหลือตอนที่เดือดร้อนตลอดเวลา เช่น
Mom is always there for me. I love her the most.
= แม่คอยช่วยเหลือฉันเสมอ ฉันรักแม่มากที่สุด
That’s why I love him. He is always there for me.
= นี่คือเหตุผลที่ฉันรักเขา เขาคอยช่วยฉันตลอด
และสำนวนใกล้เคียงคือ Hang in there! หมายถึง อย่าท้อ สู้ๆ เช่น
Hang in there! Everything will be fine. (okay) (alright)
= สู้ๆ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีเอง
สำนวน to do everything one can. = ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ เช่น
I will do everything I can to help her.
= ฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเธอ
He will do everything he can to win her heart.
= เขาจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อชนะใจเธอ
She will do everything she can to get a good job.
= หล่อนจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อจะได้งานที่ดี
They will do everything they can to get a scholarship.
= พวกเขาจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้ได้ทุนการศึกษา

วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560

คุณค่าของชีวิต


A pearl is a beautiful thing that is produced by an injured life. It is the tear from the injury of the oyster. Life is like a pearl. The treasure of our being in this world is also produced by an injured life. If we had not been injured, if we had not been wounded, then we will not produce the pearl.

ไข่มุกเป็นสิ่งสวยงามที่เกิดจากชีวิตที่ปวดร้าว มันคือน้ำตาแห่งความเจ็บปวดของหอยมุก ชีวิตเราเปรียบดั่งมุก คุณค่าของการอยู่ในโลกเกิดจากชีวิตที่เจ็บปวด หากไม่เจ็บปวด หากไม่มีบาดแผล ก็จะไม่สามารถสร้างมุกได้

สำนวน
คำว่า injure หมายถึง ทำให้บาดเจ็บ เช่น
The car accident injured 5 people.
= อุบัติเหตุรถยนต์มีคนบาดเจ็บ 5 คน
Yesterday I injured my back lifting a bookshelf.
= เมื่อวานนี้ ฉันเจ็บหลังขณะที่ยกชั้นหนังสือ
Federer injured his shoulder playing tennis.
= เฟดเดอเร่อร์บาดเจ็บที่ไหล่ตอนเล่นเทนนิส
คำว่า injure มักจะปรากฏในรูปของผู้ถูกกระทำ โดยเฉพาะในภาษาข่าว เช่น
Several innocent people were injured from the attack.
= ผู้บริสุทธิ์หลายคนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี


และสามารถนำคำว่า badly / severely ซี (เวียร์) รี่/ seriously / critically (คลิ) ทิค คลี่
เอาไปขยายวางไว้ในตำแหน่งนี้ ก็จะหมายถึง ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก หรือสาหัส to be seriously injured
เช่น He was seriously injured in the accident.
= เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุ
She was critically injured while trying to help her friend from the burning house.
= หล่อนได้รับบาดเจ็บสาหักขณะที่กำลังพยายามช่วยเพื่อนจากบ้านที่กำลังไหม้ไฟ
คำนี้สามารถใช้เป็นคำนามได้หมายถึง ผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่ได้รับความเสียหาย หรืออาการบาดเจ็บ บาดแผล เช่น
Don’t worry! I have only a few injuries.
= ไม่ต้องห่วง ฉันแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
That biker suffered from an injury.
= นักปั่นจักรยานคนนั้นทรมานจากแผลบาดเจ็บ
The tennis player had to withdraw from the competition because of an elbow injury .
=นักเทนนิสต้องพอนตัวจากการแข่งเพราะบาดเจ็บที่ข้อศอก
Our insurance provides in the case of injury, illness and death.
= ประกันของเราให้ความคุ้มครองในกรณีบาดเจ็บ ป่วยและตาย
Wearing a helmet can protect motor bikers from serious injury.
= การสวมหมวกนิรภัยสามารถปกป้องผู้ขับขี่จักรยานยนต์จากอาการบาดเจ็บสาหัสได้
He suffered serious injuries in the car crash and died at the hospital.
= เขาทรมานจากบาดแผลฉกรรจ์ในอุบัติเหตุรถยนต์และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
According to the new law, employees will get compensation due to illness or injury.
= ตามกฎหมายใหม่ ลูกจ้างจะได้รับเงินชดเชยเนื่องจากเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
สำนวน to add fuel to injury หมายถึง ผีซ้ำด้ามพลอย หมายถึง โดนอะไรที่มันเลวร้าย แล้วโดนเข้าไปอีก มิหนำซ้ำเจอสิ่งที่ไม่ดีเข้าไปอีก หรือซวยซ้ำซวยซ้อน เช่น
He lost a job and to add fuel to injury, later on his girlfriend left him.
= เขาตกงาน มิหนำซ้ำ (ซวยซ้ำซวยซ้อน) ต่อมาแฟนก็ทิ้งไปอีก
We could not go on a picnic, and to add fuel to injury, I lost my new watch.
= ไปเที่ยวไปไม่ได้ มิหนำซ้ำ (ซวยซ้ำซวยซ้อน) นาฬิกาก็หายอีก

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

อย่าใส่ใจกับคนที่ไม่น่าใส่ใจ

I don’t have time to worry about who doesn’t like me.
I am too busy loving the people who love me.
ฉันไม่มีเวลามาใส่ใจกับคนที่ไม่ชอบฉัน
เพราะฉันเอาเวลาไปใส่ใจกับคนที่รักฉัน
สำนวน
คำว่า busy หมายถึง ยุ่งหรือไมว่าง เช่น
She is very busy right now. = ตอนนี้ หล่อนงานเยอะ
I am busy. Could you call me later?
= ตอนนี้ยุ่งอยู่ โทรมาใหม่แล้วกัน
What a busy day! = ช่างเป็นวันที่ยุ่งวุ่นวายจังเลย
That salesman is busy with a customer.
= พนักงานขายยุ่งอยู่กับลูกค้า
The receptionist has been busy with her clients since last night.
= พนักงานต้อนรับยุ่งอยู่กับลูกค้าตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
สำนวน to be busy + ving หมายถึง ทำสิ่งนั้นอยู่ เช่น
He is busy talking on the phone.
= เขาไม่ว่าง กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
I am busy studying for the exam.
= ฉันไม่ว่าง กำลังดูหนังสือเตรียมสอบ
Dad is busy watering plants and mom is busy cooking.
= พ่อไม่ว่า กำลังรดน้ำต้นไม้ และแม่ไม่ว่าง กำลังทำอาหาร
To keep busy = ยุ่งเข้าไว้ หรือ to keep + คนใดคนหนึ่ง + busy = ทำตัวให้ยุ่ง
เช่น There are a lot of activities to keep you busy during the trip.
= มีกิจกรรมให้คุณทำไม่ว่างเว้นหรอกในระหว่างการเดินทาง
I kind of keep myself busy or I will be worried.
= ฉันประมาณว่าต้องทำตัวให้ยุ่งเช้าไว้ จะได้ไม่กังวล
You need to keep yourself busy or you will get mad.
= คุณต้องทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ ไม่งั้น ประสาทรับทานได้
I can’t meet you tomorrow because I have a busy schedule.
= ฉันมาพบคุณไม่ได้หรอกวันพรุ่งนี้เพราะตารางแน่นมาก
Although I have a busy schedule, I can fit you in.
= แม้ตารางจะแน่น แต่ก็หาเวลาให้คุณได้
The line has been busy all day.
= สายไม่ว่างทั้งวัน
The toilet is busy.
= ห้องน้ำมีคนใช้อยู่

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

คนสำคัญ

Be who you are and say what you feel, because those who mind don't matter, and those who matter don't mind.”

เป็นในสิ่งที่เราเป็น พูดสิ่งที่เรารู้สึก เพราะคนที่มาวุ่นวายกับเราเหล่านั้นไม่สำคัญ คนที่สำคัญเขาจะไม่มาวุ่นวายกับเรา

สำนวน

คำว่า mind เป็นกริยาหมายถึง รบกวน
เช่น
Would you mind if I turned on the TV.?
= ไม่ว่าอะไรนะถ้าฉันจะเปิดทีวี
กริยาที่อยู่ในส่วนที่2 เป็นช่อง 2 เพราะเป็น Would you mind if + S + v2
แต่ถ้าเป็น Do you mind if + s + v1 ความหมายเหมือนกัน เช่น
Do you mind if I turn on the TV?
= ไม่ว่าอะไรนะถ้าฉันจะเปิดทีวี
Would you mind + ving หมายถึง ขอให้อีกคนหนึ่งทำสิ่งหนึ่ง เช่น
Would you mind waiting outside?
= รอข้างนอกหน่อยนะ
Would you mind telling me the time?
= ช่วยบอกเวลาหน่อย
Would you mind shutting up for a few minutes?
= ช่วยหยุดพูดสักสองสามนาทีนะครับ
Would you mind saying something nice?
= ช่วยพูดอะไรที่เป็นมงคลหน่อย
แต่ในความหมายที่อยู่ในข้อความ หมายถึง เข้ามาจุ้นจ้าน เข้ามายุ่งวุ่นวาย
เช่น
Mind your own business. = ยุ่งเรื่องของตัวเองเถอะ
Never mind! ไม่เป็นไร ไม่เป็นการรบกวนหรอก ไม่วุ่นวายอะไรหรอก
สำนวน if you don’t mind. ใช้ถามความเห็น ในทำนองว่า คุณคงไม่ว่าอะไรนะถ้าเราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
I am going to bed, if you don’t mind.
= ฉันกำลังจะไปนอนแล้ว คงไม่ว่าอะไรนะ
I want to call you tonight, if you don’t mind.
= คืนนี้จะโทรไปหานะ ไม่ว่าอะไรนะ (ไม่ถือว่าเป็นการรบกวนนะ)
และสุดท้าย
Mind your manners. = ระวังเรื่องมารยาทหน่อย
Mind + อะไร ก็ให้ระวังสิ่งนั้น เช่น
Mind your head. = ระวังศีรษะด้วย
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

ความกล้า

The greatest test of courage on earth
is to bear defeat without losing heart.
บททดสอบความกล้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกก็คือ
การแบกรับความพ่ายแพ้ได้โดยไม่สิ้นหวัง

สำนวน
To lose heart หมายถึง ท้อแท้ หมดกำลังใจ มีความหมายเหมือน to be discouraged ( dis = เอาออกไป + courage = ความกล้า ) (เอาความกล้าออกไป แปลตามรูปศัพท์)
Dad never loses heart in spite of the biggest obstacle.
= พ่อไม่เคยท้อแท้แม้จะพบอุปสรรคที่ยากลำบากที่สุดก็ตาม
My friend often loses heart when he faces difficulties.
= เพื่อนฉันมักจะท้อแท้เมื่อเจอปัญหา
They never lose heart even in the face of adversity.
= พวกเขาไม่เคยท้อแท้แม้จะเจอความทุกข์ยาก
และยังหมายถึง ตกหลุมหรือเสียหัวใจให้ใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้กริยา to give = to lose one’s heart ( to + คนใดคนหนึ่ง)
That girl lost (gave ) her heart when she met a good-looking guy.
= หญิงสาวตกหลุมรักเมื่อเจอชายรูปงาม
I used to lose (give) my heart to a pretty girl.
=ฉันเคยตกหลุมรักสาวน่ารัก
เมื่อพูดถึงตกหลุมรักแล้วก็น่าจะพูดถึง หักอกหรือทำให้อีกคนหนึ่งเจ็บปวดไปเลย สำนวนนั้นคือ to break someone’s heart เช่น
She broke his heart when she left for another guy.
= หล่อนทำให้เขาอกหักเมื่อทิ้งเขาไปมีคนใหม่
It really breaks my heart when I think of the test.
= ฉันเจ็บปวดทุกทีที่คิดถึงการสอบ
และสำนวนสุดท้ายคือ to open one’s heart หมายถึง เปิดใจ
You should open your heart to him and tell him how you feel.
= คุณน่าจะเปิดใจกับเขา บอกเขาไปเลยว่ารู้สึกยังไง
และยังหมายถึง เป็นคนใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจกว้าง เช่น
After he opened his heart to help the poor, he was very happy.
= หลังจากที่เขาเริ่มมีเมตตาช่วยคนจน เขามีความสุขมาก
บางคนอาจสงสัยว่า แล้วสำนวน to open one’s mind หมายถึง อะไร คำว่า mind หมายถึง สมอง ความคิด มุมมอง ไม่เหมือนกับ heart ซึ่งหมายถึง ความรู้สึกหรือใจ ในภาษาไทยจะแปลคล้ายๆกัน
Dad always encourages me to open my mind to all possibilities.
= พ่อมักส่งเสริมให้ฉันเปิดใจต่อสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งหมด
Teachers should open their minds to a variety of students.
= ครูควรจะเปิดใจยอมรับความหลากหลายของนักเรียน
Travelling to New York and Vientiane opened my mind to a completely different lifestyle.
= การท่องเที่ยวนิวยอร์คและเวียงจันท์เปิดมุมมองของฉันให้เห็นถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เพราะฉะนั้น วิธีที่จะมีความสุขได้ก็คือ Open your heart and open your mind and you will be happy.
หมายถึง ทำให้ใจกว้าง(มีเมตตา)และเปิดมุมมองต่อสิ่งใหม่ (อย่าไปติติงใคร โกรธใคร และยอมรับสิ่งที่คนอื่นเขาเป็น เปิดมุมมองให้กว้างนั่นเอง)