วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การใช้คำว่า different

ผิด : What different?
ประโยคนี้คนไทยต้องการสื่อว่า อะไรคือความแตกต่าง ปัญหาอยู่ตรงที่คำว่า different เป็นคำคุณศัพท์ต้องใช้กับกริยา to be อ่านว่า (ดิฝ) เฝอะเริ่นท์ ส่วนคำนามคือ difference อ่านว่า (ดิฝ) เฝอะ- เริ่นส์ มีที่ใช้แตกต่างกันดังนี้
หากต้องการใช้คำนามให้ใช้คำว่า difference หมายถึง อะไรคือ ความแตกต่าง
What is the difference? หรือ What’s the difference?
แต่หากเป็นคำคุณศัพท์ ก็ให้ใช้คำ'ว่า how เช่น How different? หรือ How is it different?

แต่ถ้าหากต้องการจะระบุว่าอะไรแตกต่างจากอะไรก็ให้ใช้ว่า What is the difference between สิ่งหนึ่ง and อีกสิ่งหนึ่ง?
เช่น
What is the difference between mangoes and durians?
เป็นต้น หรือ
How are mangoes different from durians?
คำนี้ในรูปคุณศัพท์คล้ายกับภาษาไทยมาก หากต้องการบรรยายว่าอะไรแตกต่าง ก็ขอเอามันไปใช้ได้ในทุกสถานการณ์ เช่น สีที่แตกต่างกัน different colors, วันที่แตกต่างก็ a different day อาชีพที่แตกต่าง ก็ a different career / job
ดูประโยคกันบ้าง
This drug affects different people in different ways.
= ยาตัวนี้มีผลกระทบต่อคนแตกต่างกันในรูปแบบที่แตกต่างกัน
Our family has different viewpoints in politics.
= ครอบครัวเรามีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน
Our club has different members from different ages and beliefs.
= ชมรมของเรามีสมาชิกที่แตกต่างกันทางอายุและความเชื่อ
และสำนวนที่น่าจำก็คือ to be a different world = เป็นโลกอีกใบหนึ่งหรือเป็นสถานที่หรือสถานการณ์ที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เช่น
I couldn’t believe I was in Chiangkarn, in a different world, all peace and beauty.
= ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าได้มาอยู่ที่นี่ เชียงคาน เหมือนโลกอีกใบหนึ่ง มีแต่ความสวยงามและความสงบ
The first day I started working here. I felt like it was a different world.
= วันแรกที่เริ่มงานที่นี่ รู้สึกเหมือนว่า ทำงานอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง (แตกต่างจากที่เดิมอย่างมากมาย)
These two kids are completely different.
= เด็กสองคนนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เราสามารถเอาคำว่า completely / totally มาใส่ไว้หน้าคำว่า different ได้เลย
สิ่งของหรือคนที่ต้องเปรียบเทียบ + are completely different. แค่นี้ก็ได้แล้ว
และอีกหนึ่งสำนวนที่ควรรู้เอาไว้ใช้ให้ได้ เน้นให้ได้ เพราะมันมีที่ใช้มากนั่นคือ It’s a different story. แปลเป็นไทยก็คือ มันคนละเรื่องเลยล่ะพ่อ ใช้เมื่อเราต้องการจะบอกว่า สิ่งที่คิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือสิ่งที่เห็นมันตรงข้าม เช่น
At first I think he was smart and handsome. After I met him in person, it was a different story.
= ทีแรกก็คิดว่าเขาฉลาดและหล่อ หลังจากที่พบตัวจริง โอ้โห คนละเรื่องเลย
It looks like a big house, but inside it’s a different story.
= ดูข้างนอกหลังใหญ่ แต่ข้างในคนละเรื่องเลย
และสุดท้ายของสำนวน difference คือ
It makes no difference to + คน หมายถึง ไม่แตกต่าง หรือ ยังไงก็ได้ เช่น
Tea or coffee. It makes no difference to me.
= ชาหรือกาแฟ ไม่แตกต่างสำหรับฉัน (ได้ทั้งนั้น)
Plane or train. It makes no difference to me.
= เครื่องบินหรือรถไฟ สำหรับฉันแล้ว ได้หมด (ไม่แตกต่าง)
Papaya salad or sushi. It makes no difference to her.
= สำหรับเธอแล้ว ส้มตำหรือซูชิ ได้หมด
หรืออีกสำนวนหนึ่ง
What difference does it make? เอาไว้ใช้ถามแบบกวนๆหรือไม่กวนก็ได้ว่า แล้วมันต่างกันตรงไหนเนี่ยะ เช่น
Going to bed early and getting up late. What difference does it make?
= เข้านอนเร็วและตื่นสาย มันแตกต่างกันตรงไหนเนี่ยะ
แล้วถ้ามีความรู้ภาษาอังกฤษมากแล้วใช้ไม่ได้ กับการไม่รู้หรือรู้น้อย What difference does it make? = มันแตกต่างกันตรงไหนล่ะจริงไหม
You learn a lot about grammar, but can’t put it into use. He knows very little or nothing about it.
What difference does it make?
(คุณรู้ไวยากรณ์เยอะแยะมากมายแต่เอาไปใช้ไม่ได้ เขารู้น้อยมากหรือไม่รู้เลย มันแตกต่างกันตรงไหนหรือ )


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น