วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คำพูดที่อาจได้ยินเวลาไปพบแพทย์

                                  คำพูดที่อาจได้ยินเวลาไปพบแพทย์
“We’ll need to run some tests.”
= เราจำเป็นต้องตรวจสุขภาพเพื่อวินิจฉัยโรค tests ก็คือ a blood test = การตรวจเลือด a urine test = การตรวจปัสสาวะ an ultrasound test = การตรวจอวัยวะภายใน (internal organs) และ x-rays = การตรวจโดยการฉายรังสี
You need to have a blood test.
= คุณจำเป็นต้องตรวจเลือด
We need to take a urine sample.
= เราจำเป็นต้องตรวจปัสสาวะ (ตัวอย่างปัสสาวะ)
I think you’ll have an x-ray.
= หมอคิดว่าคุณต้องเอ๊กซ์เรย์
I have a bowl movement every morning.
= ฉันถ่ายอุจจาระทุกเช้า
I have food poisoning.
= อาหารเป็นพิษ
I have diarrhea. ได เออ (เรีย)
= ฉันท้องเสีย
I have the runs.
= ฉันท้องเสีย
I have the shits.
= ฉันขี้แตก (ไม่สุภาพ)
I want to pass water. = ไปฉี่ (สุภาพ)
I want to pee. ปวดฉี่
I want to piss. (ไม่สุภาพ) ปวดเยี่ยว
I've gotta poo. ปวดอึ
I've gotta take a shit. (ไม่สุภาพ) ปวดขี้้
It’s the call of nature. = ปวดฉี่
“The transplant was a success. There were no complications.”
การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะประสบผลสำเร็จ ไม่มีโรคแทรกซ้อน complications อ่านว่า คาม พลิ (เค) เชิ่นส์ หมายถึง อาการแทรกซ้อน คนส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะสิ่งนี้แหละ
“I’d like to keep you here overnight for observation.”
= หมออยากจะขอสังเกตอาการสักคืนหนึ่ง
สำนวน to keep someone overnight = ให้นอนหนึ่งคืน for observation การสังเกต ออกเสียงว่า อาบ เสอะ (เว) เชิ่น (เน้นพยางค์ (เว)
คำนี้มีที่ใช้ที่น่าสนใจอีกสองคำคือ an observation tower = หอที่เอาไว้ใช้ดูโน่นดูนี่ หอสังเกตการณ์ (นักโทษก็ได้) หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะมีสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ เอาไว้ชมวิวทิวทัศน์
คำกริยาคือ to observe อ่านว่า เอิบ (เสิร์ฝ) เน้นพยางค์ที่สอง
“We haven’t made a diagnosis yet, but we’ve ruled out cancer.”
= เรายังวินิจฉัยไม่ได้แต่เราได้ตัดประเด็นมะเร็งไปแล้ว สำนวน to rule out + สิ่งใดก็คือ ตัดประเด็นนั้นออก
คำกริยาคือ to diagnose = วินิจฉัยว่า อ่านว่า (ได) แอท โน๊ส
มักใช้ในรูปของผู้ถูกกระทำ เช่น He was diagnosed with lung cancer. = เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด
She was diagnosed with breast cancer.
= หล่อนถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหน้าอก
The kid was diagnosed with the flu.
= เด็กคนนั้นถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่โครงสร้าง คน + was diagnosed with + โรคที่ป่วย
สำนวน to make a diagnosis = ทำการวินิจฉัยโรค อ่านว่า ได แอค (โน) ซิส เช่น The doctor made a correct diagnosis. = หมอวินิจฉัยได้ถูกต้อง ผิดก็ wrong แม่นยำก็ accurate เอาไปใส่กันเอง
อีหนึ่งสำนวนที่ใช้กันก็คือ to be diagnosed as having + โรคที่เป็น
Several years ago, she was diagnosed as having Alzheimer's disease.
= หลายปีก่อน หล่อนถูกวินิจฉัยว่าเป็นอัลซายเมอร์
สำนวน to rule out + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็คือ ตัดเรื่องนั้นออก
The police ruled out suicide. = ตำรวจตัดประเด็นการฆ่าตัวตายออกไป
The doctor ruled out cancer. = หมอตัดประเด็นมะเร็งทิ้งไป
สำนวน to rule out the possibility that + S + V
The police ruled out the possibility that she was murdered.
= ตำรวจตัดประเด็นของความเป็นไปได้ที่ว่า หล่อนถูกฆาตกรรม
“Does it hurt when I press here?”
= เจ็บไหมตอนที่หมอกดตรงนี้
“I’m going to prescribe you some antibiotics.”
หมอจะสั่งยาปฏิชีวนะให้
เวลาจะบรรยายว่า หมอสั่งจ่ายยาอะไร สามารถใช้สำนวน to prescribe + คนไข้ + ยาที่สั่งจ่าย เช่น
The doctor prescribed me some painkillers. = หมอสั่งยาแก้ปวดให้
“Do you have any allergies?”
คุณแพ้ยาอะไรไหม อ่านว่า (แอ) เลอ จี้
เวลาต้องการบอกว่า แพ้ยาอะไร ให้ใช้โครงสร้าง
ประธาน is / am/ are allergic to + ยาที่แพ้ อ่านว่า แอล (เลอ) จิคเช่น
I am allergic to painkillers. = ฉันแพ้ยาแก้ปวด
แต่ถ้าจะบอกเพียงว่า แพ้อะไรก็ได้ทั่วๆไป ก็ใช้ว่า I have allergies.
แต่ถ้าต้องการจะบอกว่า แพ้อาหารทะเล ก็ I am allergic to sea food. เป็นต้น
หรือ to have an allergy to + สิ่งที่แพ้ก็ได้ เช่น I have an allergy to sea food. = แพ้อาหารทะเล
คำพูดที่คนไข้อาจต้องใช้
“I have a rash on my arm, and it’s very itchy.”
= ฉันมีผื่นที่แขน และคันมาก
สำนวน to have a rash on + อวัยวะ เช่น
I have a rash on my left leg. = มีผื่นที่ขาซ้าย
It’s very itchy. = คันมาก
I feel a sharp pain when I bend my knee.”
= ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บๆตอนที่งอเข่า
To feel a sharp pain = เจ็บแปล๊บๆ ส่วน to feel a dull pain = ปวดตื้อๆ ปวดต่อเนื่อง
“My stomach hurts and I’ve lost my appetite.”
= ปวดท้องและกินอาหารไม่ลง
สำนวน My stomach hurts. = ปวดท้อง อะไรปวดก็เอาอวัยวะนั้นมาแทนที่ เช่น My back hurts. = ปวดหลัง My leg hurts. = ปวดขา
สำนวน to lose one’s appetite = ทานอาหารไม่ลง ทานอะไรไม่ลง อ่านว่า (แอ๊พ ) เผอะ ไท๊ท์
To describe the pain you’re feeling, you can say “My + [body part] hurts.” If you’ve lost your appetite, it means you have no desire to eat.
“My neck is stiff and sore. I think I’ve pulled a muscle.”
= คอแข็งและเจ็บ ฉันคิดว่า ใช้กล้ามเนื้อมากไป
To pull a muscle = ใช้กล้ามเนื้อมากไป
“What are my options for treatment?”
= ทางเลือกในการรักษาคืออะไร (จะรักษาด้วยวิธีไหน)
“Am I going to need surgery?”
= ผมต้องผ่าตัดไหม คำว่า surgery อ่านว่า (เซอร์) เจอะ รี่ อีกคำหนึ่งคือ an operation อ่านว่า อาพ เผอะ (เร) เชิ่น
การผ่าตัดอวัยวะส่วนใดก็ใช้ to have หรือ undergo surgery on + อวัยวะ เช่น Last year, I had surgery on my arm. = ปีที่แล้ว ฉันผ่าตัดแขน หรือ Last year, I underwent surgery on my arm.
ส่วนจะบรรยายว่า หมอผ่าตัดอะไร ให้ใช้ว่า to perform / carry out surgery on + อวัยวะ
คำว่า surgery = an operation ทุกที่ เช่น
The doctor perform an operation on my arm. = หมอผ่าตัดแขน
แต่ถ้าต้องการจะบรรยายว่า ผ่าตัดโรคอะไร ให้ใช้ for + โรค เช่น
I underwent surgery for lung cancer.
= ฉันผ่าตัดโรคมะเร็งปอด
She had surgery for breast cancer.
= หล่อนผ่าตัดมะเร็งหน้าอก
The doctor performed an operation for breast cancer.
= หมอผ่าตัดมะเร็งหน้าอก เป็นต้น
“I’d like to get a second opinion.”
= ฉันอยากจะฟังความคิดเห็นของหมออีกท่านหนึ่ง
“That’s a relief!”
= โล่งอกไปที
ใช้พูดเวลาเรารู้สึกสบายใจหลังจากสิ่งที่เลวร้ายผ่านพ้นไป





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น