วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การเชิญขวนเพิ่มเติม


          
                   การเชิญชวนเพิ่มเติม
(คนไหนที่คิดว่า มากไป ก็ไม่ต้องจำแต่ที่ต้องเอามาให้ดูเนื่องจากคนเรามีหลากหลาย จริตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน)

A: We’d like to invite you and your wife over for a barbecue this Sunday evening. Would you be able to come?
อยากจะเชิญคุณและภรรยามากินเลี้ยงบาร์บิคิวกันเย็นวันอาทิตย์นี้ พอจะมาได้ไหม
บาร์บิคิวคือการกินอาหารประเภทปึ้งๆย่างๆ กินไปทำไป
B: This Sunday evening?
เย็นวันอาทิตย์นี้นะเหรอ
A: Yes. We hope you’ll be able to join us.
ใช่แล้ว เราหวังว่าคุณจะสามารถมาได้นะ
B: Thank you for the invitation. We’d be very happy to come.
ขอบคุณที่เชิญนะ ได้เลย
A: Good!
เยี่ยมเลย
B: What time should we plan to arrive?
ว่าแต่ว่า เราควรจะมาถึงตอนไหนดี
A: How does 5:oo sound?
ห้าโมงเป็นไง
B: That’s fine. We’ll be looking forward to it.
ดี เราจะรองานเลี้ยงนะ
สำนวนที่ใช้ในการเชิญ
We’d like to invite + คนที่ต้องการเชิญ+over.
We’d like to have + คนที่ต้องการเชิญ + over
We’d like + คนที่อยากเชิญ + to be our guests.
We’d like + คนที่อยากให้มาร่วม + to join us.
สำนวนตอบรับคำเชิญ
ขอบคุณที่เชิญ ให้ใช้สำนวนต่อไปนี้ได้เลย (เลือกกันเอาเองแล้วแต่ความชอบส่วนตัว)
Thank you for the invitation. (ขอบคุณที่เชิญ)
Thank you for inviting us. (ขอบคุณที่เชิญ)
I appreciate the invitation. (รู้สึกซาบซึ้งมากที่เชิญ)
It’s very nice of you to invite us.
(ดีจังเลยที่เชิญ)
และตามด้วยยินดี ดีใจ ที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
I’d be very happy / very glad / pleased / delighted to + ทำสิ่งนั้น
ไปให้ครบ จะได้ดูดี
การถามเวลาที่อยากให้ไปถึง
How does +เวลา + sound?
Is + เวลาที่อยากจะให้ไปถึง + convenient?
Would + เวลาที่อยากจะให้ไปถึง + be convenient / all right?
อันที่จริงแล้ว เวลานั้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้สำหรับการนัดหมายทั่วๆไป เพราะมันแปลว่า เวลานี้สะดวกไหม
เช่น อยากนัดเพื่อนทานข้าว ถามว่า เวลานี้สะดวกไหมก็ใช้ได้ เช่น
Is 6 p.m. convenient? อ่านว่า เคิน (วี) เนี๊ยนท์ ที่เป็นไม้ตรีเพราะเป็นคำถาม
Is Sunday convenient?
หากต้องการถามว่าคุณว่างไหมในช่วงไหนก็สามารถพูดได้ว่า
Are you free at เวลาช่วงนั้นๆ
Are you available at เวลาช่วงนั้น
ใช้เมื่อเป็นเวลาชั่วโมง แต่ถ้าเป็นวันต้องใช้ on และที่แสบกว่า พอเป็นเดือนมันดันไปใช้ in เข้าอีก แต่ถ้าจะให้ง่าย เอาเวลาขึ้นแล้วตามด้วย convenient จะง่ายกว่า เช่น
Is 6 p.m. convenient? หรือ Is Monday convenient? หรือ Is June convenient?
แต่ถ้าจะใช้ Are you free ต้องมานั่งปวดหัวกับ at / on / in อีกเช่น
Are you free at 6 p.m.?
Are you available on Monday?
Are you available in June?
นี่คือความน่าปวดหัวของมัน แต่เราฝึกใช้จนคล่องและชินกับมัน มันก็ไม่เป็นปัญหา พวกนี้เขาชอบเอาไปใช้ออกสอบด้วย เพราะมันน่าทดสอบจะตาย
และนี่คือสิ่งที่เราต้องเลือกเอง
คนไหน ภาษายังไม่แข็งแรง ก็เอาแบบง่ายๆเด็กๆไปก่อน คนไหนที่ภาษาปานกลาง ก็เอามันสองอย่างไปเลย
แบบฝึกหัดฝึกพูดหรือจะเอาไปฝึกเขียนก็ได้ ถ้าไม่มีใครพูดด้วยหรือไม่อยากพูดกับใคร ลอกตัวอย่างบทสนทนาที่ให้มาแล้วเอาข้อความพวกนี้ไปแทนที่ดู ทำไปเรื่อยๆ เมื่อยก็หยุด หรือจนกว่าจะจำได้ จากนั้นค่อยเอาไปฝึกพูด ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำได้ เพราะหลักการเรียนภาษามันมีแค่นี้แหละ ต้องมีข้อมูลเยอะๆ จำให้ได้ แล้วเอาไปใช้ ใครมีโอกาสใช้มาก ก็จะเก่งได้เร็ว
A brunch (อาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันรวมกัน) / this Sunday noon
Dinner / this Friday evening
A small get-together we’re having (งานเลี้ยงพบปะกินๆดื่มๆแล้วก็เม๊าท์ฆ่าเวลา)/ this Saturday evening 8:00
A party celebrating our 15 th wedding anniversary (งานเลี้ยงฉลองครบรอบแต่งงานสิบห้าปี) / this Saturday evening 7:30

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น