วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Smile like you’ve never cried,
fight like you’ve never lost,
love like you’ve never been hurt
and live like there is no tomorrow.

ยิ้มแบบที่ไม่เคยร้องไห้
สู้แบบไม่เคยแพ้พ่าย
รักแบบไม่เคยเ
จ็บ
และมีชีวิตอยู่ให้เหมือนกับว่า วันนี้คือวันสุดท้าย

สำนวน
คำว่า like หมายถึง ชอบ แต่เมื่อนำมาใช้เป็นคำเชื่อม หมายถึง ราวกับว่า หรือแบบว่า ตามด้วยคำนามหรือประโยคก็ได้ เช่น
Don’t cry like a child.
= อย่าร้องไห้เป็นเด็กๆเลย
He treated me like a king.
= เขาปฏิบัติต่อฉันดีมาก
They have treated me like dirt.
= พวกเขาทำกับฉันราวกับว่าฉันเป็นขยะ (ไม่มีค่า)
Try to avoid things like cakes and candies because they make you fat.
= พยายามเลี่ยงของประเภทเค๊กและลูกอมเพราะจะทำให้อ้วน
Things like that always happen.
= เรื่องทำนองนั้นมักจะเกิดขึ้น เป็นธรรมดา
Work like it’s your own company.
= ทำงานราวกับว่ามันเป็นบริษัทของคุณเอง
It sounds like it is going to rain.
= ทำท่าเหมือนฝนจะตก
The prawns taste like they are not fresh.
= กุ้งพวกนี้รสชาติเหมือนจะไม่สด
สำนวน
Something like that! หมายถึง อะไรประมาณนั้น หรือราวๆนั้น เช่น
We drank , sang and danced. Something like that.
= เราดื่ม ร้องเพลง และเต้น อะไรประมาณนั้น
และสำนวน Things like that. ทำนองนั้น เช่น
We did a lot of shopping. Things like that.
= เราซื้อของกันเยอะมาก อะไรทำนองนั้น อะไรประมาณนั้น
I went to Laos last year. I cruised along the river and watched the sunset. Things like that.
= ปีที่แล้ว ไปเที่ยวลาวมา ล่องเรือและชมพระอาทิตย์ตก อะไรทำนองนั้น

อย่าหวังผล 100 %

A: Don’t aim for perfection.
อย่าหวังผล 100 %
B: I’m afraid I am not quite clear what you mean.
(ผมไม่เคลียร์ในสิ่งที่คุณพูด)
A: Well, The point I am trying to make is that …
(ประเด็นที่กำลังพยายามจะบอกก็คือ......)

When we aim for perfection, we always feel that what we do is not good enough. I want to share with you a couple of ideas to get rid of this habit.
เมื่อเราคาดหวังผล 100 % เรามักจะรู้สึกว่า สิ่งที่เราทำมันไม่ดีพอ ก็เลยอยากจะแบ่งปันวิธีคิดที่จะจัดการกับนิสัยนี้
No 1. Instead of going for perfection, go for good enough.
แทนที่จะพยายามทำอะไรเพื่อผล 100 % เอาแค่ดีก็พอ
สำนวน to go for + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึง พยายามทำเพื่อสิ่งนั้น เช่น
If you want a good job, go for it.
= ถ้าอยากได้งานดี ก็พยายามเอามาให้ได้
To get rid of + คนหรือสิ่งใด หมายถึง กำจัด เช่น
Get rid of him. = จัดการเขาซะ
It’s difficult to get rid of bad students.
= จัดการเด็กที่แย่ ทำยากนะ
No 2. Bear in mind that perfection does not exist in reality. It is only our imagination and most of our imagination is imaginary.
จำไว้ว่า ความสำเร็จแบบ 100 % มันไม่มีอยู่จริง มันเป็นเพียงสิ่งที่เราคิดกันเอง และจินตนการของเราส่วนใหญ่มันก็ไม่จริง
สำนวน
imagination = จิตนาการ
คำคุณศัพท์ imaginative อิ (แม) เจิ่น เหนอะ ถิฝ
= ที่มีความคิดสร้างสรรค์
คำคู่ของเขาคือ imaginary อิ (แม) เจิ่น เน รี่
= ที่ไม่มีจริง ที่คิดขึ้นเอง
To bear in mind = to keep in mind = To remember จำไว้ว่า หรืออย่าลืมว่า
ใช้แทนกันได้หมด เช่น
Bear in mind that we have an important meeting next week.
= Keep in mind that we have an important meeting next week.
= Remember that we have an important meeting next week.
= อย่าลืมว่า (จำไว้ด้วยว่า) เรามีประชุมนัดสำคัญสัปดาห์หน้า

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

รู้สึกขอบคุณ

A: When you face a major challenge, be grateful for it.
เมื่อเจอปัญหาหนักๆ ให้รู้สึกขอบคุณ
สำนวน to face a major challenge เผชิญปัญหาใหญ่ๆ คำว่า to face + สิ่งไม่ดี หมายถึง เจอ หรือประสบกับ
คำว่า a challenge หมายถึง สิ่งที่ท้าทาย หรือปัญหาหรืออุปสรรค ซึ่งเป็นคำที่ดีกว่า a problem
B: I’m afraid I am not quite clear what you mean.
(ผมไม่เคลียร์ในสิ่งที่คุณพูด)
A: Well, The point I am trying to make is that …
(ประเด็นที่กำลังพยายามจะบอกก็คือ......)


When something goes wrong, complaining and self-pity don’t get you anywhere. Learn to be grateful for the challenge by thinking that…
เมื่อมีอะไรผิดพลาด การโวยวายและการสมเพศตัวเองไม่ได้ทำให้ตัวเราดีขึ้น เรียนรู้ที่จะรู้สึกขอบคุณกับปัญหานั้นด้วยการคิดว่า
It’s a great opportunity to grow.
It’s a great opportunity to learn.
It’s a great opportunity to improve yourself.
It will transform you from a complainer into a positive person.
นับเป็นโอกาสที่จะเก่งขึ้น
นับเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้
นับเป็นโอกาสที่จะปรับปรุงตัวเอง
จะเปลี่ยนตัวเราจากคนขี้โวยวายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี
สำนวน self-pity = การสมเพศตัวเอง
It won’t get someone anywhere หมายถึง ไม่ทำให้ตัวคนๆนั้นดีขึ้น เช่น
Worrying won’t get her anywhere.
= การวิตกกังวลไม่ได้ช่วยให้เธอดีขึ้น
Feeling guilty won’t get you anywhere.
= การรู้สึกผิดไม่ได้ช่วยทำให้คุณดีขึ้น

สำนวน It’s a great opportunity to do สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
It’s a great opportunity to talk to you.
= เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พูดกับคุณ
It’s a great opportunity to attend the seminar.
= เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ
To transform + คนใดคนหนึ่ง + from + คนๆหนึ่ง + into + อีกสิ่งหนึ่ง เช่น
Gratitude will transform you from an unhappy person into a happy person.
= ความรู้สึกขอบคุณจะเปลี่ยนคุณจากคนทุกข์มาเป็นคนที่มีความสุข
Gratitude will transform you from a stressed person into a relaxed person.
= การรู้สึกขอบคุณจะช่วยเปลี่ยนคุณจากคนเครียดมาเป็นคนผ่อนคลาย

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เลิกทำสิ่งที่ไม่คุ้มค่า

Stop putting an effort into those who show no effort towards you. There’s only so much you can do before you’re wasting your energy and time.

หยุดพยายามทำอะไรให้กับคนที่ไม่คิดพยายามทำอะไรให้เรา มีอะไรที่เราสามารถทำได้อีกเยอะแยะมากกว่าจะเสียเวลาและพลังงานในแบบนั้น

สำนวน

คำว่า effort อ่านว่า (เอ๊ฟ) เฟริ์ท หมายถึง ความพยายาม เช่น
He made a lot of effort trying to please her.
= เขาพยายามอย่างมากที่จะทำให้หล่อนพอใจ
The plan takes more effort but the result is rewarding.
= แผนการนี้ใช้ความพยายามมากหน่อยแต่ผลก็คุ้มค่า
สำนวน in an effort to + do หมายถึง ในความพยายามที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
We work hard in an effort to expand our business.
= เราทำงานอย่างหนักเพื่อจะขยายธุรกิจ
This project will require a lot of effort and dedication.
= โครงการนี้ต้องใช้ความพยายามและการทุ่มเทอย่างมาก
สำนวน to put an effort into + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึง พยายามทำอย่างหนัก เช่น
He is putting an effort into his job.
= เขาพยายามทำงานอย่างหนัก
The doctor puts an effort into convincing the patient to quit smoking.
= หมอพยายามอย่างหนักที่จะโน้มน้าวให้คนไข้เลิกสูบบุหรี่
Let’s try again next time. Put more effort into it.
= พยายามใหม่ครั้งหน้า พยายามให้มากขึ้นอีก
สำนวน It’s a waste of + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึง สิ้นเปลืองสิ่งนั้น ใช้ไปแบบไม่คุ้มค่า
It’s a waste of time . = สิ้นเปลืองเวลา
It’s a waste of energy. = สิ้นเปลืองพลังงาน
It’s a waste of money. = สิ้นเปลืองเงินทอง
It’s a waste of effort. = พยายามไปก็ไร้ผล

วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เหตุแห่งทุกข์

We are not happy because……
เราไม่มีความสุขเพราะ....

Have we ever wondered why we are not happy though we try a variety of techniques? The interesting point we overlook is our own mindset. I want to share with you some of the concepts make us unhappy about life.

     เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราไม่มีความสุขแม้ว่าเราจะลองทำมาหลากหลายวิธีแล้วก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจที่เรามองข้ามก็คือ วิธีคิดของเราเอง เลยอยากจะแบ่งปันแนวคิดที่ทำให้ชีวิตเราไม่มีความสุขเหล่านั้น

No. 1 Unhappy people aim for perfection. It cannot exist in our real life.
คนที่ไม่มีความสุขมุ่งหวังสิ่งที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่มีในชีวิตจริง
สำนวน to aim for + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึง มุ่งหวังหรือมีจุดหมาย เช่น
Some aim for wealth; others aim for health.
= บางคนมุ่งหวังจะร่ำรวย หลายคนมุ่งหวังจะให้มีสุขภาพที่ดี
We aim for materials; then we suffer.
= เรามุ่งหวังวัตถุ เราจึงทุกข์
Students aim for the best grades. Employees aim for a higher salary.
= นักเรียนหวังเกรดที่ดีที่สุด พนักงานก็หวังเงินเดือนที่มากขึ้น

No. 2 They think negative.
คนที่ไม่มีความสุขคิดแต่เรื่องร้ายๆ
สำนวน to think negative = คิดแง่ลบ เช่น Don’t think negative. Think positive. = อย่ามองโลกในแง่ร้าย จงมองโลกในแง่ดี
No3. They get stuck in the past and future too much.
คนที่ไม่มีความสุขคิดถึงแต่อดีตและอนาคตมากเกินไป
สำนวน to get stuck in + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึง ติดอยู่กับ เช่น
We get stuck in traffic at least a couple of hours every day. = เราติดอยู่ในจราจรอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ทุกวัน
No4. They focus on the negative details of life.
คนที่ไม่มีความสุขเพ่งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่ดีในชีวิต
สำนวน to focus on + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึง สนใจหรือใส่ใจ กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
Let’s focus on work. = เรามาสนใจเรื่องงานกันเถอะ
Focus on the negative and you’ll suffer.
= มองแต่เรื่องลบ เราก็จะทุกข์
No5.They compare themselves to others.
คนที่ไม่มีความสุขเปรียบตัวเองกับผู้อื่น
สำนวน to compare + ใครหรืออะไร + to + อีกสิ่งหนึ่งหรืออีกคนหนึ่ง เช่น
Dad likes to compare me to my brother.
= พ่อชอบเอาฉันไปเปรียบกับน้องชาย
No6. They limit life by believing that they are self-centered.
คนที่ไม่มีความสุขจำกัดชีวิตตัวเองโดยเชื่อว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก (คนอื่นผิดหมด)
สำนวน self-centered = ที่ชอบมองตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง
Don’t waste time convincing him. He is completely self-centered. = อย่าไปเสียเวลาไปพูดให้เขาเชื่อเลย เขามองตัวเองถูกสุดๆ
No7. They overcomplicate life.
คนที่ไม่มีความสุขทำให้ชีวิตยุ่งยากเกินไป
สำนวน to overcomplicate + สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึง ทำให้ยุ่งยากหรือซับซ้อนมากเกินไป เช่น
Don’t overcomplicate the issue.
= อย่าทำให้ประเด็นนี้มันซ้อนนักเลย

เคล็ดลับความสุข

The key to happiness is letting each situation be what it is instead of what you think it should be.

เคล็ดลับความสุขคือการปล่อยให้สถานการณ์นั้นๆเป็นไปตามที่มันเป็น แทนที่จะคิดอยากให้มันเป็น

สำนวน

situation ซิ เฉอะ (เอ) เชิ่น หมายถึง สถานการณ์ สภาพการณ์ หรือภาวะ เช่น
An economic situation = ภาวะเศรษฐกิจ
A financial situation = ภาวะทางการเงิน
A political situation = สถานการณ์ทางการเมือง
We have to do something to improve the situation.
= เราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
The situation is getting worse and worse.
= สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ
The current situation in the south is worrying.
= สถานการณ์ในภาคใต้น่าเป็นห่วง
The current financial situation is improving.
= สถานการณ์ทางการเงินตอนนี้กำลังดีขึ้น
High unemployment arises in work situations.
= การว่างงานที่สูงเกิดขึ้นในภาวการณ์ทำงาน
My dad’s health is in good situation.
In this situation หรือ in a situation like this,…..ในสถานการณ์แบบนี้, S + v
In a situation like this, we should be careful in our spending.
= ในสถานการณ์แบบนี้ เราควรระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย
I can help you because I used to be in the situation like this.
= ฉันสามารถช่วยคุณได้เพราะฉันเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
และสำนวน a win-win situation หมายถึง สถานการณ์หรือภาวะที่ไม่มีใครสูญเสีย มีแต่ได้กับได้ It’s a win-win situation.
หรือหากเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองไม่มีใครได้ มีแต่เสียกับเสีย ก็ใช้ว่า It’s a no-win situation. และสำนวน It’s a chicken and egg situation. = สถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นก่อน หรือเอาไปใช้บรรยายปัญหาก็หมายถึง ปัญหาโลกแตก It’s a chicken and egg problem. = ปัญหาที่ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นก่อน (เหมือนไก่กับไข่ อะไรมาก่อน ประมาณนั้น ตัดสินใจอะไรไม่ได้) และคำว่า situation comedy หมายถึง ตลกสถานการณ์ ก็คือ ละครแนวตลกตามทีวีที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า sitcom นั่นเอง เช่น
I like watching sitcoms on TV because it’s relaxing.
= ฉันชอบดู sitcom ทางทีวีเพราะมันผ่อนคลายดี

วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ช่วยยังไงไม่ให้ทุกข์

Help people help themselves.
Don’t judge, just help.
Be cautious to point them in the right direction and help them get moving.
Don’t make their journey yours nor make your journey theirs.

ช่วยเขาให้รู้จักช่วยตัวเอง
อย่าวิจารณ์อะไรแค่ช่วยอย่างเดียว
ช่วยระวังให้เขาเดินให้ถูกทางและให้กำลังใจให้เขาเดินต่อไป อย่าไปเอาเรื่องของเขามาเป็นเรื่องของเราและอย่าเอาเรื่องของเราไปเป็นเรื่องของเขา

สำนวน
คำว่า to help + someone + to do หรือ do something เช่น
Please help me solve the problem.
= ช่วยฉันแก้ปัญหาหน่อย
Could you help me (to) choose the shoes?
= ช่วยเลือกรองเท้าให้หน่อย
I will help you (to) carry the box up the stairs.
= ฉันจะช่วยขนกล่องขึ้นบันไดเอง
These medicine will help you (to) relax.
= ยาตัวนี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย
และโครงสร้าง to help + คนใดคนหนึ่ง + with + คำนาม หมายถึง ช่วยทำสิ่งนั้น เช่น
Please help me with the shopping?
= ช่วยฉันซื้อของหน่อย
Parents help their kids with the homework.
= พ่อแม่ช่วยลูกทำการบ้าน
When I am free, I always help my mom with the housework.
= ตอนว่าง ฉันมักจะช่วยแม่ทำงานบ้าน
สำนวน It helps. มันช่วยได้ หรือ It doesn’t help. มันไม่ได้ช่วย เช่น
Complaining doesn’t help.
= การบ่นหรือการโวยวายไม่ได้ช่วยอะไร
Crying wont’ help. It’s better rise up and get moving.
= การร้องไห้ไม่ได้ช่วยอะไร ดีกว่าไหมที่จะลุกขึ้นและเดินต่อไป
และสำนวน Help yourself! หมายถึง ให้บริการตัวเอง ให้ช่วยตัวเอง เช่น
I am very busy. Please help yourself.
= ฉันยุ่งมาก บริการตัวเอง (หาอะไรกินเอง)

เวลาเหมือนสายน้ำ

Time is like a river. You cannot touch the same water twice because the flow that has passed will never pass again.
Enjoy every passing moment of life.

เวลาเหมือนสายน้ำ เราไม่สามารถสัมผัสสายน้ำนั้นได้อีก เพราะสายน้ำที่ไหลไปแล้ว ไม่ไหลย้อนคืน จงมีความสุขกับทุกช่วงเวลาที่กำลังผ่านไป

สำนวน
To pass หมายถึง ผ่าน เช่น
Does this bus pass the Grand Palace?
= รถคันนี้ผ่านวัดพระแก้วไหม
The river passes through the town center.
= แม่น้ำสายนี้ไหลผ่านใจกลางเมือง
The president passed the crowd.
= ท่านประธานผ่านฝูงชน
We will drop you when we pass the airport.
= เราจะส่งคุณตอนที่เราผ่านสนามบิน
I pass the convenience store on my way home.
= ฉันผ่านร้านสะดวกซื้อตอนเดินกลับบ้าน
คำนี้มักจะใช้ในความหมายว่า ส่งมาให้ เช่น
Pass me the sugar, please.
= ช่วยส่งน้ำตาลมาให้หน่อย
Could you please pass me the notebook?
= ช่วยส่งโน๊ตบุ๊คมาให้หน่อย
Pass me the cup of coffee, please.
=ช่วยส่งกาแฟมาให้หน่อย
I have passed the driving test.
= ฉันสอบใบขับขี่ผ่านแล้ว
Congratulations! You could make it.
= ยินดีด้วย คุณทำได้แล้ว
สำนวนที่น่าจำคือ
To pass something around หมายถึง ส่งให้ดูทั่วๆ เช่น
Could you please pass this book around?
= ช่วยส่งหนังสือให้ดูกันทั่วๆด้วย
To pass away หมายถึง เสียชีวิต เป็นคำสุภาพกว่า to die เช่น
He passed away peacefully.
= เขาจากไปอย่างสงบ
My granddad passed away when I was young.
= ปู่เสียตอนที่ฉันยังเล็ก
และ to pass out หมายถึง เป็นลม เช่น
I pass out when I see blood.
= ฉันเป็นลมตอนเห็นเลือด
She passed out when she saw a snake.
= หล่อนเป็นลมตอนที่เห็นงู
My friend passed out when he heard the bad news.
= เพื่อนฉันเป็นลมตอนได้ยินข่าวร้าย
Pass me an inhaler. I am passing out.
= ช่วยส่งยาดมมาให้หน่อย ฉันกำลังจะเป็นลม
สำนวน to be like หมายถึง เหมทอน ใช้เปรียบเทียบ เช่น
He is like mom.
= เขาเหมือนแม่
Life is like a leaf.
= ชีวิตเปรียบเหมือนใบไม้
The world is like a big stage.
= โลกเราเหมือนโรงละครโรงใหญ่
สำนวน on stage =บนเวที
I get nervous when I go on stage.
= ฉันตื่นเต้นทุกครั้งตอนขึ้นเวที
The big fans gave a yell when the celeb appeared on stage.
= แฟนๆโห่ร้องตอนที่คนดังปรากฏตัวบนเวที

วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ความสัมพันธ์ที่ยืนยาว

Every relationship has its problems,
but what makes it perfect is if you still want to be together when things go wrong.

ทุกความสัมพันธ์ล้วนมีปัญหา
แต่ที่สุดยอดก็คือ เรายังอยากอยู่ด้วยกันยามที่มีปัญหา

สำนวน

Relationship รี (เล) เชิ่นชิพ หมายถึง ความสัมพันธ์ ของคน ของสิ่งต่างๆ เช่น
I have a good relationship with my colleagues.
= ฉันทีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อร่วมงาน
The relationship between Thailand and America has improved.
= ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐดีขึ้น
She has a bad relationship with her dad.
= หล่อนมีความสัมพันธ์ไม่ดีกับพ่อ
The best way to treat a patient is to understand the relationship between mental and physical health.
= วิธีที่จะรักษาคนไข้ก็คือเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจิต
My relationship with my girlfriend is getting better.
= ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนและฉันกำลังดีขึ้น
New companies have to establish good relationships with customers.
= บริษัทใหม่ๆต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดกับลูกค้า
Every relationship without trust doesn’t last long . = ทุกความสัมพันธ์ที่ไม่ความเชื่อใจกันมันไม่ยืนยาว
สำนวน to go wrong หมายถึง ที่ไม่เป็นไปตามนั้น ผิดปกติ ที่ผิดพลาด เช่น
I don’t know what went wrong with this project. = ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรผิดพลาดกับโครงการนี้
What went wrong with the computer?
= เกิดอะไรผิดปกติกับคอมพิวเตอร์หรือ
We must have many plans in case our first plan goes wrong.
= เราต้องมีหลายแผนเผื่อแฟนแรกของเราไม่ได้ผล
Something has gone wrong with my cellphone.
= โทรศัพท์ฉันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ
สำนวน to make it perfect = ทำให้สุดยอด ทำให้สมบูรณ์แบบ หรือทำให้เป็นเหมือนอุดมคติ ทำนองนั้น ในที่นี้ก็คือ ทำให้รู้สึกดีมากหรือสุดยอดนั่นเอง
เช่น
When I do my job, I will make it perfect.
= ตอนทำงาน ฉันก็จะทำให้ดีเลิศ
That’s perfect! = สมบูรณ์แบบ สุดยอด (เป็นไปตามที่เราคิด)
That’s perfect! It is just the way I want it to be.
= สุดยอด เป็นไปตามที่ฉันอยากให้เป็นเลย

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สิ่งที่ทำให้รักหมดไป

Love doesn’t die because of distance.
It dies because of doubt.

ความรักไม่ได้จางหายไปเพราะระยะทาง
แต่หมดไปเพราะความหวาดระแวง

สำนวน
คำว่า doubt หมายถึง ความสงสัย ความเคลือบแคลง ความหวาดระแวง เป็นได้ทั้งคำนามนับได้และนับไม่ได้ เช่น
I have some doubts about this issue.
= ฉันมีข้อสงสัยนิดหน่อยเกี่ยวกับประเด็นนี้
และสำนวน No doubt about it! สามารถเอาไว้ใช้เมื่อต้องการจะสื่อว่า เป็นแบบนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย โดยจะใช้พูดแค่นั้น หรือจะเอามาใช้พูดเสริมก็สามารถทำได้ เช่น
A: Do you think it is going to rain?
คิดว่าฝนจะตกไหม
B : No doubt about it.
ของมันแน่
หรือปรากฏในข้อความทำนองนี้ เช่น
He will pass the test. No doubt about it.
= เขาจะสอบผ่านได้แน่ ไม่ต้องสงสัย (ของมันแน่)
The economy is getting worse because of the political conflict. No doubt about it.
= เศรษฐกิจกำลังแย่เพราะความขัดแย้งทางการเมือง ของมันแน่ (ไม่ต้องสงสัยเลย)

There is no doubt that + S + V เช่น
There is no doubt that he is a professional doctor.
= ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นหมอระดับมืออาชีพคนหนึ่ง
There is no doubt that this team is going to win.
= ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมนี้จะชนะ
สำนวนฝรั่งที่ตรงกับเราก็คือ เมื่อสงสัย ให้ถาม ของเขาใช้ว่า When you are in doubt, ask.
โครงสร้างที่ใช้คือ
When / if (you are) in doubt, + กริยา เช่น
When (you are) in doubt, don’t do anything.
= หากสงสัยอะไร อย่าเพิ่งทำอะไร
If (you are )in doubt, consult the doctor.
= ถ้าสงสัยอะไร ไปปรึกษาหมอ
คำว่า you are จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้