Most of the problems in life are because of
the two reasons: we act without thinking or we keep thinking without acting.
ปัญหาส่วนใหญ่ในชีวิตเกิดมาจากสองสาเหตุ หนึ่ง ทำอะไรโดยไม่ได้คิด
และเอาแต่คิดแต่ไม่ทำอะไร
สำนวน
คำว่า act มีหลายหน้าที่
หน้าที่แรกคือ กริยา หมายถึง ทำ หรือลงมือ เช่น
We have to act immediately to solve that
problem.
= เราต้องลงมือเดี๋ยวนี้เพื่อแก้ปัญหานั้น
Think before you act.
= คิดก่อนทำ (ก่อนลงมือทำ)
ความหมายที่สอง ทำตัว เช่น
She didn’t act properly at the meeting.
= หล่อนทำตัวไม่ดีในการประชุม
We should teach our children how to act when
they are with the elderly.
= เราควรสอนให้เด็กรู้ถึงวิธีการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่กับผู้มีอาวุโส
She has been acting strangely (differently)
recently.
= หมู่นี้ หล่อนทำตัวแปลกๆ
The boss would like everybody to know the new
policy and act accordingly.
= หัวหน้าอยากให้ทุกคนรับทราบนโยบายใหม่นี้และปฏิบัติตาม
สำนวน To act your age = ทำตัวให้สมวัยหน่อย เช่น
Hey! Act your age. You are not a kid
anymore.
= นี่
ทำตัวให้สมวัยหน่อย ไม่ใช่เด็กแล้ว
และสำนวน To act like + คนหรือสิ่งของ หมายถึง
ทำตัวเป็นแบบนั้น เช่น
Kids nowadays act like adults.
= เด็กสมัยนี้
ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่
Stop acting like an idiot.
= เลิกทำตัวงี่เง่าได้แล้ว
พวกเราคงคุ้นกับคำพูดว่า
เลิกทำเป็นไร้เดียงสา เลิกทำอาการแบบไม่จริงใจ แบบนั้น เราก็สามารถใช้ว่า
Stop acting! I know you know about
it.
= เลิกฟอร์มได้แล้ว
ฉันรู้ว่าเธอรู้ทุกอย่าง
Stop acting innocent.
= เลิกทำเป็นใสซื่อ
ไร้เดียงสาได้แล้ว
I know you are bored. Please act
interested.
= รู้นะว่าเธอเบื่อ
แต่ก็ทำเป็นสนใจหน่อยซิ
In fact, dad knows everything, but
he acts dumb.
= จริงๆ พ่อรู้ทุกอย่าง
แต่ทำเป็นมึน (ทำเป็นไม่รู้อะไร)
If anybody asks you about me, act
dumb.
= ถ้ามีใครถามอะไรเกี่ยวกับฉัน
ทำเป็นมึนก็แล้วกัน
และสุดท้ายก็คือ
สุภาษิตเตือนใจ
Actions speak louder than words.
= ทำดีกว่าพูด
NATO = No action, talk only ไม่ทำอะไร
ดีแต่พูด
แต่เมื่อเราเอาไปใช้
สำนวนที่ว่าคือ to be all talk and no action เช่น
My friend never gets anything done. He is just all talk and no action.
= เพื่อนฉันไม่เคยทำอะไรเสร็จเลย ดีแต่พูด แต่ไม่ทำอะไร