วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Happiness will never come...

 “Happiness will never come to those who fail to appreciate what they already have.”

“Happiness is not having a lot. Happiness is giving a lot.”
-Buddha

ความสุขไม่มีวันเกิดกับคนที่ไม่สามารถชื่นชมสิ่งที่ตัวเองมี
ความสุขไม่ได้อยู่การที่มีมากแต่อยู่ที่การให้ได้มาก

การใช้

สำนวน Happiness เป็นคำนามนับไม่ได้ หมายถึง ความสุข จำไว้เลยว่า คำที่ลงท้ายด้วย ness ทั้งหลายเป็นคำนาม
คำ happiness มาจากคำว่า happy จับมันมาแปลงโฉมสักเล็กน้อย มันก็กลายเป็นคำนามไปแล้ว เปรียบกับภาษาไทยคือ เอาคำว่า ความ ไปใส่หน้าคำไหน ก็กลายเป็นคำนามในบัดดล เช่น ความเสียใจ ความเมตตา หรือความใจดี

ภาษาอังกฤษ สุข คือ happy คำวามสุขคือ happi + ness (ness= ความ ในภาษาไทย)
Sad แปลว่า เศร้า ความเศร้าคือ sad + ness กลายเป็น sadness ฉันใดฉันนั้น แต่อย่าเที่ยวไปเอาไปเติมมั่วไม่ได้ ไม่ใช่ เอาคำว่า ness ไปเที่ยวไล่เติมตามใจชอบไม่ได้
ใจดี ก็ kind ความ ใจดี ก็ kind+ness แบบนี้ใช้ได้ ส่วนใหญ่จะเอามาเติมได้ เช่น weak อ่อนแอ เอามาใช้เป็นคำนามคือ weak + ness ก็คือ ความอ่อนแอ ไงล่ะ ของไทยเราเอามาไว้ข้างหน้า ของฝรั่งเขาเอามาเติมข้างหลัง

คำว่า never หมายถึง ไม่เคย มักจะถูกนำไปใช้นำหน้ากริยา เช่น

I never sleep before midnight.
= ฉันไม่เคยนอนก่อนเที่ยงคืนเลย

แต่ถ้ามีกริยา 2 ตัว กล่าวคือ ให้อัญเชิญ never ไปวางหน้ากริยาตัวที่ 2 เอาแค่นี้ก่อน จำไว้เลยว่า มีกริยา 1ตัว วางไว้หน้ากริยาตัวนั้น ถ้ามีกริยา 2 ตัว เอาไปวางไว้หน้ากริยาตัวที่ 2 (แต่ถ้าใครยังไม่สามารถบอกได้ว่ากริยามีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นใด ก็ตัวใครตัวมัน) เอาเป็นว่า

I never eat at night. = ตกกลางคืนแล้ว ฉันไม่เคยกินอาหาร
และ I will never love her. = ฉันไม่มีวันจะรักเธอ หรือ ฉันไม่เคยรักเธอเลย
He will never come late. = เขาไม่เคยมาสายเลย
come to those who fail to appreciate สำนวนว่า to come หมายถึง มา หรือเกิดขึ้น นั่นเอง เช่น

Love will never come.
= ความรักไม่มีวันเกิดขึ้น

Loneliness always comes when we are alone.
= ความเปล่าเปลี่ยวเหงาใจมักจะเกิดขึ้น (มักจะมา)ตอนที่เราอยู่คนเดียว

คำว่า those หมายถึง ผู้ที่ซึ่ง ตามด้วย who เป็นตัวขยาย หมายถึง ผู้ที่ซึ่ง อย่าไปแปลว่าใคร เพราะในตำแหน่งนี้ แปลแบบนั้นไม่ได้ หากสงสัยไปอ่านคัมภีร์การเขียนเรื่อง การเอาคำ relative pronoun มาขยายคำนาม บทที่ 4 ตอนที่ 2 เรื่องการเอาข้อความไปขยายคำนาม แล้วจะใช้เป็น

ส่วน to fail + to + กริยา หมายถึง ล้มเหลว หรือไม่สามารถนั่นเอง เช่น

He failed to pass the test. = He couldn’t pass the test.
= เขาสอบตก (เขาไม่สามหารถสอบผ่านได้ หรือ เขาล้มเหลวที่จะผ่านการสอบ

She failed to work on this project.
=She couldn’t work on the project.
= หล่อนทำโครงการไม่สำเร็จ

คำว่า to fail สามารถตามด้วย คำนามเลยก็ได้ หรือไม่มีคำนามก็ได้ แล้วแต่บริบท เช่น
I tried but I failed.
= ฉันพยายามแล้วแต่ก็ล้มเหลว

He worked very hard but failed.
= เขาขยันแล้วแต่ก็ล้มเหลว

หรือ ในการสอบ เราสามารถเอาวิชาที่สอบตกมาวางไว้หลังคำว่า fail ได้เลย เช่น

I failed math but passed all other subjects.
= ฉันสอบตกเลขแต่วิชาอื่นผ่านหมด

He failed the driving test the first time he took it.
= เขาสอบตกในการสอบขับขี่รถครั้งแรก

แค่นี้ก่อน
ส่วนคำว่า appreciate หมายถึง ซาบซึ้ง สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น

I appreciate your help.
= รู้สึกซาบซึ้งกับการช่วยเหลือของคุณ

We should appreciate what we have.
= เราควรซาบซึ้งสิ่งที่เรามี

I appreciate everything you’ve done for me.
= ฉันซาบซึ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้ฉัน

เรียกว่า ซาบซึ้งอะไร ก็เอาคานั้นไปวางไว้ข้างหลังคำนี้ เช่น

I appreciate your concern.
= ฉันรู้สึกซาบซึ้งที่เป็นห่วงเป็นใย

I appreciate your advice.
= รู้สึกซาบซึ้งคำแนะนำของคุณ

We must learn to appreciate food and water.
= เราต้องเรียนรู้ที่จะซาบซึ้งกับอาหารและน้ำ

I really appreciate her.
= ฉันซาบซึ้งเธอจริงๆ (รู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ)

โอย โลกเรามีสารพัดที่จะซาบซึ้งหรือขอบคุณได้ เอาไปใช้ได้หมด

ข้อความที่ว่า
"Happiness is not having a lot. Happiness is giving a lot.”
ก็น่าจำไปใช้ เอาไว้เตือนตัวเองเวลาอยากได้อะไรมาครอบครองมากๆ แต่ถ้าทำตรงข้าม จะมีความสุขมากกว่า เราสามารถเอาไปดัดแปลงใช้เป็นโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับภาษาไทยได้ว่า

You will be very happy when you give a lot instead of getting a lot.
= คุณจะมีความสุขมากเมื่อคุณให้เยอะ แทนที่จะได้รับมาเยอะ


อาจเป็นภาพระยะใกล้ของ ดอกไม้, ธรรมชาติ และท้องฟ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น